สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 23 ธ.ค. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 84,622 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 71,587 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 84.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 7,905 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.3% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 895 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.1% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB21DA และ LB155A (รุ่นอายุ 4.5 ปี, 7.0 ปี และ 0.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,049 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของ บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT15DA) มูลค่า 71 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของ บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON152A) มูลค่า 71 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของ บมจ. ราชธานีลีสซิ่ง (THANI164A) มูลค่า 62 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 204 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,830 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 5,050 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,837 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01% จากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.51% ปรับตัวลดลง 0.01% จากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายปีจึงไม่ค่อยมี Demand จากนักลงทุนมากนัก ขณะที่ตลาดยังติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (GDP ไตรมาส 3/57) ที่จะประกาศในคืนนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,837 ล้านบาท