EPG ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 6.35 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 9.48%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 24, 2014 12:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น EPG ปิดเทรดช่วงเช้า 6.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท(+9.48%)จากราคาขาย IPO ที่ 5.80 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 3,331.95 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 7.05 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 7.15 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.20 บาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินราคาเป้าหมายปี 2016F ของบมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป(EPG) ที่ 7.15 บาท ด้วยวิธี PER 15x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยผู้ประกอบการในธุรกิจคล้ายกัน โดยชอบ EPG ที่ ความเป็นผู้นำระดับโลกในสินค้ากลุ่มพลาสติกแปรรูป ด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 10% สำหรับสินค้าฉนวนยางกันความร้อน/เย็น (Top 3 ของโลก), 35% สำหรับสินค้าพื้นปูกระบะ(Bed liner, Top 1 ของโลก) และ 20% สำหรับสินค้าถ้วยพลาสติกในเอเชีย (Top 3 ของเอเชีย)

ท่ามกลางจุดแข็งด้วยการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผ่านสิทธิบัตรที่มีในมือกว่า 239 รายการทั่วโลก และช่องทางการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่งผ่าน Dealer ใน 100 ประเทศ รวมถึงข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งของฐานการผลิตที่กระจายและใกล้กับแหล่งคู่ค้า จึงคาด NP ช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2015-17F) จะเติบโตก้าวกระโดดกว่า +38%/ปี

ทั้งนี้ ประเมินในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลพลอยได้ของ EPG โดยสำหรับปี 15F (ปิดงวดมี.ค.15) เราคาดยอดขายจากลุ่มสินค้าฉนวนยางจะโตโดดเด่นสุดในกลุ่ม +10%y-y ตามความสำเร็จในการขยายตลาดในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและเอเชีย ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์และกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกจะเริ่มเห็นการเติบโตที่โดดเด่นตั้งแต่ปี 16F ที่ +25%/+15% ตามการส่งมอบค่ำสั่งซื้อให้กับลูกค้าใหม่รายใหญ่ระดับโลกในกลุ่มรถกระบะและร้านกาแฟเต็มปี

พร้อมคาดว่ากำไรสุทธิปี 15F เพิ่มขึ้นเป็น 769 ล้านบาท (+22%) ตามแรงหนุน i) ยอดขายที่จะกลับมาเพิ่มขึ้น +7% โดยเฉพาะจากกลุ่มฉนวนยาง ท่ามกลางความสามารถในการคุม SG&A/sale ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังระดมทุน ในขณะที่ปี 16F โดยคาด NP จะเร่งตัวขึ้นกว่า +73% ตามการเติบโตของรายได้ที่เร่งตัวทุกผลิตภัณฑ์ขึ้น +20% และ GPM ที่จะพุ่งขึ้นเป็น 27.2% (+139bps) ตาม Utilization rate ที่สูงขึ้นและ Mix ของสินค้ามาร์จิ้นสูงมากขึ้น

แม้ EPG มีนโยบายกำหนดราคาขายที่อิงตามหลัก cost plus margin และมีความโดดเด่นด้านคุณภาพสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ด้วยปริมาณวัตถุดิบที่คิดเป็น 30-45% ของต้นทุนการดำเนินงาน ก็ทำให้ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ อาจมีผลต่อ Marginในระยะสั้น ขณะที่เพื่อความไม่แน่นอนที่สิทธิบัตรจะหมดอายุคุ้มครอง EPG จึงได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อดูแลและต่ออายุสิทธิบัตรเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ