สินเชื่อบัตรเครดิตในปีหน้าตั้งเป้าเติบโต 9-11% โดยธนาคารจะหันมาเน้นยอดการใช้จ่าย (Spending) มากกว่าเน้นปริมาณการปล่อยเชื่อบัตรเครดิต โดยปีหน้าธนาคารตั้งเป้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโต 30% จากปีนี้ที่เติบโต 16% หรือคิดเป็นสองเท่าของการเติบโตของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งตลาดในปีนี้ที่ 8% โดยธนาคารจะเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น และมีแคมเปญต่างๆเข้ามากระตุ้น ซึ่งภายในเดือนมากราคม 58 ธนาคารจะส่งแคมเปญใหญ่ออกมากระตุ้นยอดการใช้จ่ายในช่วงต้นปีหน้า
ส่วนเงินสดทันใจ (Express cash) ธนาคารจะไม่เน้นมากนัก เนื่องจากยังไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจของประเทศ แต่ธนาคารจะใช้การขายเป็นแบบแพ็คเกจพ่วงไปกับผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
ขณะที่ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อธุรกิจลูกค้าบุคคลในปีหน้าธนาคารจะรักษาระดับให้ไม่เกิน 2% จากปีนี้ที่คาดว่าในสิ้นปีจะอยู่ที่ 1.8% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 56 ที่อยู่ที่ 1.6% เนื่องจากในปีนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ส่งผลต่อการจ่ายชำระของลูกค้าบางส่วน แต่อย่างไรก้ตามยังเป็นระดับที่ธนาคารยังสามารถควบคุมได้
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในปีหน้าที่ตั้งเป้าเติบโต 6-8% ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะของตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีหน้าที่คาดว่าจะเติบโตที่ 8% โดยธนาคารได้มีการร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในการให้สินเชื่อแก่ลูกค้า ประกอบกับมีการจับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงเพิ่มมขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีหน้ายังมีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่ง
“สินเชื่อบ้านปีหน้าไม่ได้โตเยอะมาก เราก็โตไปตามตลาด เราคาดว่าตลาดโต 8% เราก็ตั้งเป้าโต 6-8% เราก็ยังมีการร่วมกับ Developer ใหญ่ๆอยู่ แต่เราจะไป Focus ในกลุ่มที่มีรายได้สูงมากขึ้น เพราะปีหน้ายังมีความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจอยู่ซึ่งทางธนาคารประเมิน GDP ในปีหน้าจะขยายตัวได้ 4% ซึ่งปีหน้าก็ต้องพึ่งการใช้จ่ายภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้”นายปกรณ์ กล่าว
ส่วนผลิตภัณฑ์เงินฝากและกองทุนรวมของธนาคารในปีหน้าตั้งเป้าเติบโต 9-12% จากปีนี้ที่เติบโต 12% หรืออยู่ที่ 2.52 ล้านล้านบาท โดยธนาคารการเติบโตนั้นมีความสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 58 นอกจากนี้ธนาคารยังตั้งเป้าเพิ่มจำนวนบัตรเดบิตใหม่ในปีหน้าอีก 4-5 ล้านใบ โดยคาดว่าในสิ้นปี 58 จะมีจำนวนบัตรเดบิตทั้งหมด 12 ล้านใบ ประกอบกับยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตเฉลี่ยในปี 58 จะอยู่ที่ 5,000 บาท/เดือน โดยยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 7,000 บาท/เดือน
ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิในปี 58 ธนาคารได้มีการตั้งเป้าเติบโต 20-23% หรืออยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่เติบโต 22% หรืออยู่ที่ 2.62 หมื่นล้านบาท ซึ่งการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิในปีหน้าจะมาจากบัตรเครดิตและร้านค้าบัตรเครดิตจะเติบโต 22% กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันเติบโต 21% และผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Transaction Service เติบโต 17% โดยในส่วนนี้ธนาคาจะมีการเน้นการธุรกรรมในรูปแบบดิจิตอลแบงกิ้งมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามคอนเซปท์ “ดิจิตอล ไลฟ์สไตล์ แบงก์กิ้ง” ที่สามารถครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงชีวิตในทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าดิจิตอลใหม่ที่ใช้บริการ K-Mobile Banking และ K-Cyber Banking อีก 4 ล้านราย โดยจะมีลุกค้าที่ใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ดังกล่าวในสิ้นปี 58 ที่ 14 ล้านราย จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 10 ล้านราย นอกจากนี้ธนาคารยังมีจุดให้บริการตนเอง (Self-Service) มากที่สุด โดยมีตู้เอทีเอ็ม ตู้ฝาก-ถอนอัตโนมัติรวมมากว่า 12,500 เครื่อง รองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าแบบไม่ต้องผ่านการบริการทางสาขาของธนาคาร