หลังจากนี้ บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ HEMRAJ โดยสมัครใจด้วยการแสดงเจตจำนงในการได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทเหมราชฯ ทั้งหมด ที่มีเงื่อนไขในการได้หุ้นอย่างน้อย 50% ในราคาหุ้นละ 4.50 บาท
บริษัทจะดำเนินการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 เพื่ออนุมัติการเข้าลงทุนในหุ้นของบริษัทเหมราชฯ พร้อมกันนี้ บริษัทจะทำการระดมทุนจำนวน 8,800 ล้านบาท ผ่านกระบวนการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท (Right Offering) ในจำนวนไม่เกิน 351 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในขั้นต้น กำหนดช่วงราคาเสนอขายไว้ประมาณ 25-27 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นส่วนลดที่เหมาะสมเพื่อเป็นแรงจูงใจให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในการจองซื้อ และกำหนดช่วงของอัตราการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อหุ้นสามัญที่ถืออยู่เดิม (Right Ratio) ที่ 2.75- 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน สอดคล้องกับมูลค่าการระดมทุน และช่วงราคาเสนอขาย Right Offering ดังกล่าว ทั้งนี้ ราคาเสนอขาย Right Offering และ อัตราการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อหุ้นสามัญที่ถืออยู่เดิม (Right Ratio) ที่แน่นอนนี้ จะประกาศให้ผู้ถือหุ้นทราบก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ บริษัทจะดำเนินการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Right Warrants) จำนวนไม่เกิน 117 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จองซื้อ ต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย อัตราการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัทที่ 1:1 โดยเป็นการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิโดยไม่คิดมูลค่า และมีราคาใช้สิทธิที่ราคา 35 บาท ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า การจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Right Offering) ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 20 - 26 กุมภาพันธ์ 2558 หลังจากที่บริษัทได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นแล้ว
หากพิจารณาจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) รวมแล้วจะไม่เกิน 27% ของจำนวนหุ้นสามัญของบริษัทหลังการเพิ่มทุน เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิที่บริษัทจะได้รับเพิ่มเติมจากการเข้าถือหุ้นของบริษัทเหมราชฯ จะทำให้กำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่า การเพิ่มทุนดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิด Earning Dilution พร้อมกันนี้ บริษัทตั้งใจที่จะให้สิทธิการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อไม่ให้มี Dilution จากการถือหุ้น โดยการจองซื้อหุ้นดังกล่าวบริษัทมั่นใจว่าจะมีส่วนลดขอราคาจองซื้อที่น่าสนใจ และจะไม่มีการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นรายใหม่แต่อย่างใด
บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวก็ต่อเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นเกิดขึ้นครบถ้วนแล้ว และในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2558 ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 บริษัทจะเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้บริษัทและ/หรือบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เหมราชฯ รวมถึงอนุมัติให้บริษัทออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท และเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท และอนุมัติให้บริษัทออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อและชำระราคาค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ตามรายละเอียดที่กล่าวมา
เมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นที่กล่าวมาข้างต้นบรรลุผลสำเร็จครบถ้วนแล้ว บริษัทจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจภายใต้เงื่อนไขว่า บริษัทจะยกเลิกคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หากปรากฏว่า เมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้วมีผู้เสนอขายหุ้นจำนวนน้อยกว่า 50% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เหมราชฯ
"บริษัทประมาณการไว้ว่า บริษัทจะยื่นคำเสนอซื้อได้ในวันที่ 5 มีนาคม 2558 และจะรับซื้อหลักทรัพย์เป็นเวลาทั้งสิ้น 25 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2558 ถึงวันที่ 10 เมษายน 2558 ซึ่งคาดว่าจะได้หุ้นของบริษัท เหมราชฯ มากกว่า 50% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เนื่องจากบริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าวกับกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เหมราชฯเรียบร้อยแล้ว และจากการพูดคุยและเจรจากับผู้ถือหุ้นรายอื่นทั้งในและต่างประเทศ ผู้ถือหุ้นดังกล่าวมีความสนใจที่จะมาขายหุ้นในราคาประมาณนี้เช่นกัน"นพ.สมยศ กล่าว
สำหรับแหล่งเงินทุนในการทำคำเสนอซื้อครั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้สนับสนุนสินเชื่อเป็นวงเงินกว่า 35,500 ล้านบาทหรือคิดเป็นประมาณ 80% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เหมราชฯ ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือบริษัทจะเพิ่มทุนด้วยการทำ Right Offering จำนวนประมาณ 8,800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเดิมและประสบความสำเร็จด้วยดี อีกทั้งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทก็ได้เตรียมลงทุนตามสัดส่วนที่ถืออยู่ และพร้อมที่จะเพิ่มทุนเกินสัดส่วนเพื่อสนับสนุนการทำ Right Offering ครั้งนี้ โดยเมื่อรวมเงินสนับสนุนจากธนาคารและเงินที่ได้จากการทำ Right Offering แล้ว จะเพียงพอต่อการซื้อหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท เหมราชฯ
นางจรีพร อนันตประยูร กรรมการและกรรมการผู้จัดการ WHA กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นของบริษัทเหมราชฯ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเติบโตธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถต่อยอดการเป็นผู้นำทางด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยม แบบ Built-to-Suit โดยการขยายธุรกิจในแนวดิ่ง (Vertical upward integration) ผ่านธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้บริการแก่บริษัทข้ามชาติที่ครบวงจร พร้อมกับการเตรียมตัวขยายธุรกิจในการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนนิคมอุตสาหกรรม ในภูมิภาคนี้ หรือการลงทุนในคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ
เหมราชฯ ถือเป็นบริษัทที่มีรายได้ประจำที่มั่นคง เนื่องจากมีสัดส่วนกว่าครึ่งมาจากรายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคให้แก่ลูกค้าในนิคม รวมทั้งมีการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า กับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำ เช่น กลุ่ม Glow Energy และกลุ่ม Gulf และเมื่อรวมถึงรายได้จากธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานซึ่งจะขยายตัวตามการลงทุนของภาคอุตสาหกรรม การเข้าถือหุ้นครั้งนี้ก็จะเป็นการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่บริษัทได้เป็นอย่างดีต่อไป