นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า หุ้น บมจ.เคปเปล ไทย พร็อพเพอร์ตี้(KTP), บมจ.ไทยโพลีคอนส์(TPOLY), บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL), บมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น(TCC), บมจ.วิค แอนด์ ฮุคลันด์(WIIK), บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป(SPA), บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้(CHOW), บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี(PSTC), บมจ.ซีซีเอ็น-เทค(CCN), บมจ.เกียรติธนา ขนส่ง(KIAT), ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น ทั้ง TCC-W2, TCC-W3 และ TCC-W4
รวมทั้งสิ้น 13 หลักทรัพย์ มีโอกาสเข้าข่ายต้องใช้เกณฑ์ให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ(Cash Balance)คาดว่าจะเริ่มใช้วันที่ 29 ธันวาคมนี้ โดยจะใช้ต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หลักทรัพย์ มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน Turnover list P/E หรือ พรีเมียม (ล้านบาท) (%) (เท่า/%) KTP 110.32 207.82 ขาดทุน TPOLY 144.05 70.91 ขาดทุน BMCL 1,220.06 53.66 ขาดทุน TCC 114.32 46.06 68.53 WIIK 173.51 318.28 46.98 SPA 263.09 164.61 75.91 CHOW 466.44 95.17 75.03 PSTC 1,228.27 428.52 70.97 CCN 431.17 898.17 44.27 KIAT 696.02 368.52 40.80 TCC-W2 0.06 0.28 11.37% TCC-W3 1.04 4.06 9.40% TCC-W4 2.65 2.51 23.40%