ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 89,899 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 5, 2015 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (29 – 30 ธันวาคม 2557) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม 89,899 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 44,949 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 16% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 72% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 64,826 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 8,710 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 981 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% และ 1% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB176A (อายุ 2.5 ปี) LB21DA (อายุ 7.0 ปี) และ LB196A (อายุ 4.5 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 2,699 ล้านบาท 1,600 ล้านบาท และ 1,168 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) รุ่น CPN174A (AA-) มูลค่าการซื้อขาย 122 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) รุ่น CPN171A (AA-) มูลค่าการซื้อขาย 102 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) รุ่น SCCC176A (A) มูลค่าการซื้อขาย 102 ล้านบาท

ราคา (Price) ของพันธบัตรรัฐบาลอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือผู้ซื้อจะได้ผลตอบแทน (Yield) ต่ำลง ประมาณ 0.01% - 0.05% หากเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นช่วงก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ทำให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างเบาบาง ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินประจำเดือน พ.ย. 57 (เผยแพร่รายงาน ณ วันที่ 30 ธ.ค.) โดยพบว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า แม้การใช้จ่ายภาคเอกชนจะปรับตัวดีขึ้นทั้งการบริโภคและการลงทุน แต่การใช้จ่ายภาครัฐกลับปรับตัวลดลง รวมถึงมูลค่าการส่งออกที่อยู่ในทิศทางชะลอตัว ตามการลดลงของอุปสงค์จากจีน, ญี่ปุ่น และยุโรป ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าทิศทางดอกเบี้ยในประเทศน่าจะอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปอีกซักระยะ และมีส่วนทำให้ผลตอบแทนของพันธบัตรไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงตามการคาดการณ์ดังกล่าวไปด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (29 – 30 ธ.ค. 57) เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าสู่ตราสารหนี้ระยะยาว (อายุคงเหลือ > 1 ปี) อีก 460 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ