สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 5 ม.ค. 58) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 88,083 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 41,871 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 47.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 29,517 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 33.5% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,690 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB176A และ LB21DA (รุ่นอายุ 4.4 ปี, 2.4 ปี และ 6.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 19,968 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW218A) มูลค่า 423.2 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันใต้โครงการที่ได้รับอนุญาตตามพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจ เพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นด้วยกระแสรายรับจากสิทธิเรียกร้องในค่างวดตามสัญญากู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยของบริษัท(MBSD199A) มูลค่า 293.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN244B) มูลค่า 207.5 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 924.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54.7% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 31,637 ล้านบาท
2. นักลงทุนรายย่อย มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,648 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.28% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.20%
Yield Curve ลดลงในทุกช่วงอายุตราสาร โดยเฉพาะตราสารอายุ 5-10 ปี ปรับลดลงประมาณ 20-22 bps. โดยปัจจัยหลักมาจากการที่ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งตลาดคาดว่า ECB จะเข้าซื้อตราสารหนี้ภาครัฐภายในไตรมาส 1/58 ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ของไทยวันนี้ปรับตัวลดลง 14.42 จุด จากราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงตามแนวโน้มราคาน้ำมันโลก สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 2,648 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตราสารอายุ 5-10 ปี