นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันปรับลดลงอย่างนี้บริษัทใช้จังหวะเวลานี้มาทบทวนแผนลงทุนโครงการใหม่ 5 แห่ง ได้แก่ แหล่ง M3 ในพม่า , แหล่ง Cash Maple ที่ออสเตรเลีย, แหล่งในโมซัมบิก , แหล่งออยล์แซดน์ เคดีดี ในแคนาดา และแหล่งฮัลซีบาราเกซในอัลจีเรีย
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ให้เติบโตและมีคุณภาพ โดยเมื่อปลายปีที่แล้วคณะกรรมการบริษัท ได้เห็นชอบแผนลงทุน 5 ปีข้างหน้าซึ่งเป็นแผนที่ยืดหยุ่น ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 70 เหรียญ/บาร์เรล จะมีการพัฒนาโครงการใหม่ และปีนี้ยอดผลิตเติบโต 6-7%
นายเทวินทร์ กล่าวต่อว่า บริษัทยังได้วางแผนกรณีที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลงเฉลี่ยที่ 55 เหรียญ/บาร์เรล ในแผนลงทุน 5 ปีก็ยืดหยุ่นให้สามารถปรับลดงบลงทุน โดยจะไม่กระทบการผลิตในปัจจุบันที่บริษัทลงทุนไปแล้ว แต่จะมีผลต่อการผลิตเพื่อเก็บสะสมปริมาณสำรองในอนาคต
"ราคาน้ำมันลงไปที่ 40เหรียญ/บาร์เรลเราก็ยังผลิต ในประเทศเราไม่ลดการผลิต แต่การพัฒนาแหล่งใหม่ โอกาสก็ยาก" นายเทวินทร์กล่าว
อีกทั้งในช่วงกลางปีนี้ PTTEP จะทบทวนเป้าหมายการผลิต 6 แสนบาร์เรล/วัน ภายในปี 2563 ว่าจะปรับลดลง หรือยืดระยะเวลาเป้าหมาย