บลจ.กสิกรฯ เสนอขาย 4 กองตราสารหนี้ ชูโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุด 2.7% ต่อปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 6, 2015 16:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขาย 4 กองทุนตราสารหนี้ในช่วงวันที่ 6-12 ม.ค.58 ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน CO (KFI6MCO) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.35% ต่อปี, กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ 3 เดือน K (KEFI3MK) ประมาณการผลตอบแทนฯ 2.35% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ 6 เดือน G (KEFI6MG) ประมาณการผลตอบแทนฯ 2.55% ต่อปี และกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี AD (KEFF1YAD) ประมาณการผลตอบแทนฯ 2.70% ต่อปี

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของ บลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับตราสารหนี้ที่ กองทุน KFI6MCO จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation สาขาฮ่องกง, ตราสารหนี้ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน), เงินฝาก Bank of China ,ตั๋วแลกเงินของบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) และตราสารหนี้ ธนาคารซีไอเอ็มบี จำกัด (มหาชน) โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

ในด้านกองทุน KEFI3MK จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย เงินฝาก ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, ตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย และตราสารหนี้ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย

กองทุน KEFI6MG จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย เงินฝาก PT Bank CIMB Niaga Tbk, ประเทศอินโดนีเซีย ,ตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า และ ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล

และกองทุน KEFF1YAD จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย ตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี,เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง, ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า และตราสารหนี้ Standard Bank of South Africa, ประเทศแอฟริกาใต้

กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

นายนาวิน กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดตราสารหนี้ ในปีที่ผ่านมาการลงทุนในตราสารหนี้นับว่าเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ลงทุน โดยตัวเลขการเติบโตของตลาดตราสารหนี้ในปี 2557 มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 23% แต่สำหรับในปีนี้ อาจจะต้องจับตามองในเรื่องของแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะมีผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้

บลจ.กสิกรไทย ประเมินว่า ทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยในปี 58 ยังคงมีแนวโน้มทรงตัว และเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งคาดว่าจะยังคงที่ ณ ระดับ 2.00% ไปอย่างน้อยจนถึงกลางปี 58 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ต่างประเทศอาจมีแนวโน้มที่ปรับตัวลดลงในบางประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ดังนั้น การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดระยะเวลา เพื่อล็อกอัตราผลตอบ แทนเอาไว้ก่อนที่อัตราผลตอบแทนในตลาดจะปรับตัวลดลงน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ