บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์นแนะ"ซื้อ"หุ้นธนาคารกสิกรไทย(KBANK)เชื่อผลการดำเนินงานปี 57 ยังเป็นไปตามเป้าของธนาคารและตามที่เราคาด คือ สินเชื่อโต 7%, NIM 3.7%, NPL 2.2-2.3%, กำไรเพิ่ม 15% Y-Y แม้แนวโน้มกำไร 4Q14 จะลดลง 10% Q-Q ตามฤดูกาลที่มีค่าใช้จ่ายสูงสุดของปี
และยังคงประมาณการปี 58 ที่คาดสินเชื่อเติบโต 9% NIM ไม่ต่ำกว่า 3.7%(ดีสุดในกลุ่ม) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 12% ช่วยชดเชยการตั้งสำรองที่จะยังคงสูงได้ และทำให้กำไรสุทธิปีนี้โต 9% Y-Y KBANK ยังคงเป็นหนึ่งใน Top pick ให้ราคาเป้าหมาย 271 บาท
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"หุ้น KBNAK เป็นหนึ่งใน Top Pick ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ให้ราคาพื้นฐาน 280 บาท โดยจุดเด่น คือ มีการกระจายพอร์ตสินเชื่อที่ดี (30% corporate, 38% SME และ 26% retail) มีฐานรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยแข็งแกร่ง คุณภาพสินทรัพย์ดี และ ROE สูง
ทั้งนี้ กำไรสุทธิ 4Q57 คาด 11.4 พันล้านบาท เติบโต 20%YoY แต่หดตัว 9%QoQ การเติบโต YoY มาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ดี มี NIM กว้างขึ้น และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยขยายตัวสูง แม้จะตั้งสำรองค่าเผื่อฯเพิ่มขึ้นก็ตาม ส่วนการหดตัว QoQ เนื่องจากรายได้ต่ำลงและมีค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มตามปัจจัยฤดูกาล การตั้งสำรองค่าเผื่อฯ ทรงตัว QoQ
สำหรับทั้งปี 57 คาดการณ์กำไรสุทธิขยายตัว 15%
ส่วนปี 58 ตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อ 8-9% มี NIM ทรงตัว และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยชะลอลง ผู้บริหารคาดอัตราดอกเบี้ยจะลดลงในปี 58 แต่ NIM ทรงตัวที่ 3.5-3.7% สินเชื่อขยายตัวดีขึ้น แต่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะแผ่วลงจากฐานที่สูงในปี 56-57 ด้าน NPL มีแนวโน้มทรงตัวที่ 2.2-2.3% การตั้งสำรองค่าเผื่อฯ อยู่ที่ mid-0.9% ของสินเชื่อรวม
ส่วน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"หุ้น KBANK มีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย แต่ยังมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับการเกิด NPL ใหม่ในปี 58 ยังคงสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อเอาไว้ที่ 8% แต่ปรับเพิ่ม credit cost อีก 3bp เป็น 98bp ในขณะที่ธนาคารคาดว่าจะเพิ่มอีก 8-9% เป็น 95bp ในปีนี้ โดยปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 58 ลง 1% เป็น 5.07 หมื่นล้านบาท และลดราคาเป้าหมายเป็น 260 บาท (จากเดิม 265 บาท)