ทั้งนี้ บริษัทจะเลิกโครงการโดยอัตโนมัติ เมื่อหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.7 บาท เป็นเวลา 3 วันทำการ และในกรณีที่ไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนภายใน 6 เดือนนับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจะรับซื้อหน่วยลงทุนทุกวันทำการ แต่บริษัทจะบริหารกองทุนต่อไปจนได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย โดยนโยบายในการบริหารกองทุนผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละประเทศได้ตามความเหมาะสม โดยจะดูผลตอบแทนตลาดและความได้เปรียบของอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่าการเติบโตของตลาดเอเชียเหนือน่าจะดีกว่าที่ตั้งเป้าไว้ กองทุนมั่นใจว่าจะสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า 5%
นางชวินดา กล่าวว่า หลังจากบริษัทประสบความสำเร็จจากการบริหารกองทุนเปิดเคแทมนอร์ท เอเชีย อิควิตี้ 8% ทริกเกอร์ ฟันด์ที่ใช้เวลาในการบริหารเพียง 36 วัน สร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 8 % จึงเห็นโอกาสในการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนอีทีเอฟในภูมิภาคเอเชียเหนือ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกงและเกาหลีใต้ เนื่องจากประเทศข้างต้นจะได้รับผลบวกจากการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบของรัฐบาลและธนาคารกลางของประเทศ