นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า หุ้น บมจ. อีเทอเนิล เอนเนอยี(EE), บมจ.บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม(GENCO), บมจ.เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้(KC), บมจ.วธน แคปปิตัล(WAT), บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี(AGE), บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค(ECF), บมจ.เค.ซี.เมททอลชีท(KCM), บมจ.ระยองไวร์ อินดัสตรีส์(RWI), ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม(GENCO-W1), ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค(ECF-W1) และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.วธน แคปปิตัล ทั้ง WAT-W1, WAT-W2
รวมทั้งสิ้น 12 หลักทรัพย์ มีโอกาสเข้าข่ายต้องใช้เกณฑ์ให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ(Cash Balance)คาดว่าจะเริ่มใช้วันที่ 12 มกราคมนี้ โดยจะใช้ต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หลักทรัพย์ มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน Turnover list P/E หรือ พรีเมียม (ล้านบาท) (%) (เท่า/%) WAT 361.86 250.88 ขาดทุน GENCO 335.18 85.48 ขาดทุน EE 145.01 58.78 228.23 KC 242.80 169.71 176.98 KCM 159.20 229.81 121.93 AGE 174.43 52.28 104.11 ECF 152.31 126.38 43.91 RWI 280.27 148.10 41.68 WAT-W1 1.49 47.84 708.01% GENCO-W1 34.75 41.89 -5.13% WAT-W2 1.77 7.61 740.00% ECF-W1 10.85 6.70 -29.91%