นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ TICON เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดรายได้ปี 58 จะเติบโตได้ราว 5-10% จากปี 57 ที่น่าจะมีรายได้ใกล้เคียงปี 56 ที่มีรายได้ 6.6 พันล้านบาท เนื่องจากมองว่าภาพรวมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน เห็นได้จากกลุ่มรถยนตร์และอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้ไทยเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น
ในปีนี้บริษัทมีแผนขยายพื้นที่ให้เช่าเพิ่มอีก 3.5 แสนตารางเมตร แบ่งเป็นโรงงาน 1 แสนตารางเมตร และคลังสินค้า 2.5 แสนตารางเมตร โดยจะใช้เงินลงทุนค่าก่อสร้างราว 4 พันล้านบาท และซื้อที่ดิน 2 พันล้านบาท จากปัจจุบัน บริษัทมีพื้นที่เช่ารวม 2.2 ล้านตารางเมตร ส่วนแหล่งเงินทุนจะมาจากการออกหุ้นกู้ที่คาดว่าเสนอขายช่วงปลายเดือน ม.ค.58 วงเงิน 1 พันล้านบาท รวมถึงการกู้ยืมสถาบันการเงิน และรายได้ที่เกิดจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ ซึ่งครึ่งหลังของปี 58 บริษัทมีแผนนำสินทรัพย์ขายเข้ากอง REIT อีก 4.3-4.5 พันล้านบาท
"เรามองอุตสาหกรรมรถยต์ปีนี้จะดีกว่าปีก่อน จากการที่กลุ่มค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่มีการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพิ่มขึ้น การเติบโตของรายได้ในปีนี้ก็น่าจะอยู่ราว 5-10% ที่น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ ขณะที่มองเศรษฐกิจไทยโดยรวมดีขึ้น แต่ยังไม่ค่อยดีมาก แผนการนำเนินงานในปีนี้ เราก็มีการขยายพื้นที่เช่าเพิ่ม และจะมีการนำสินทรัพย์ขายเข้ากองทุน TREIT ในช่วงครึ่งปีหลัง ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนราว 70% และขยายพื้นที่เช่า 30%"นายวีรพันธ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าของการขยายธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศอินโดนีเซียที่ร่วมมือกันกับกลุ่มมิตซุยจากญี่ปุ่นนั้น นายวีรพันธ์ กล่าวว่า การเจรจาคืบหน้าไปได้ค่อนข้างมากแล้ว โดยจะต้องมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติอย่างเป็นทางการ ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนได้ไม่เกินครึ่งปีแรก
ส่วนการขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ขณะนี้บริษัทได้เข้าไปศึกษาในประเทศเพื่อนบ้านบ้างแล้ว ทั้งพม่า ลาว และกัมพูชา โดยมองว่าพม่ามีราคาที่ดินอยู่ในระดับสูง หากราคามีความเหมาะสมก็มีโอกาสได้เห็นการเข้าไปลงทุน ระยะแรกจะเป็นการลงทุนสร้างคลังสินค้าให้เช่าก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ในปีนี้น่าจะได้เห็นการลงทุนที่อินโดนีเซียเป็นที่แรกอย่างแน่นอน