แถลงการณ์ของ SLC ระบุว่า ตามที่ปรากฎข่าวที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นของ NMG ทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์ในกลุ่ม NMG, website หรือใน Social Mediaต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2557 เป็นต้นมา โดยอาจอยู่ในรูปแบบของการรายงานข่าว หรือการวิเคราะห์ข่าวโดยคอลัมนิสต์ อาจมีลักษณะไปในทางชี้นำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจผิดทั้งต่อตัวของบริษัท SLC และบุคคลต่างๆที่ถูกอ้างถึงทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท SLC นั้น
บริษัทขอชี้แจงว่าการลงทุนในหุ้นของ NMG เป็นไปอย่างถูกต้อง ถูกกฎระเบียบและถูกกฎหมาย ผ่านการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งไม่มีข้อกฎหมาย หรือกฎระเบียบใดๆ ห้ามไม่ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งมาลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะที่ SLC เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีคณะกรรมการบริษัทที่มาจากบุคคลที่มีชื่อเสียง มีประวัติและประสบการณ์ในการทำงานที่สามารถอ้างอิงและตรวจสอบได้
นอกจากนี้ บริษัทมีกระบวนการในการพิจารณาการลงทุนต่างๆ อย่างมีหลักเกณฑ์ ถูกต้องครบถ้วน ดังนั้น การเข้าลงทุนใน NMG , Grammy, TNEWS และบริษัทอื่นๆในอนาคต บริษัท SLC ได้ตัดสินใจการลงทุนโดยศึกษาข้อมูลต่างๆอย่างละเอียดรอบคอบ และสอดคล้องกับนโยบายการเจริญเติบโตของกลุ่มบริษัท ทั้งนี้ในการดำเนินการใดๆ บริษัทมีการแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายที่เป็นองค์กรกฎหมายระหว่างประเทศ และที่ปรึกษาทางการเงินที่อยู่ในรายชื่อของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพื่อให้ความเห็นโดยละเอียดในทุกขั้นตอน เพื่อให้การลงทุนดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นทุกราย
แหล่งที่มาของเงินลงทุน SLC ได้รับมาจากการเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมรวมทั้งสิ้น 2,192,206,269.70 บาท มีที่มาอย่างชัดเจน ถูกต้องตามกระบวนการของตลาดหลักทรัพย์ สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากนักลงทุนทุกคนต่างมีบัญชีซื้อขายหุ้นอย่างเปิดเผย ไม่ใช่กลุ่มทุนสีเทาตามคำอ้างของหนังสือพิมพ์บางฉบับที่กล่าวหาอย่างเลื่อนลอย โดยไม่ได้ดำเนินอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
SLC มีเจตนาอย่างชัดเจนที่จะดำรงรักษาชื่อเสียงและแนวทางในการดำเนินงานที่ดีของบริษัทที่เข้าไปลงทุน ตลอดจนความเป็นอิสระในการดำเนินงาน โดยเฉพาะความเป็นอิสระและความมีจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี ตราบเท่าที่บริษัทนั้นๆ ได้ดำเนินการตามวิชาชีพอย่างมืออาชีพ และสามารถรักษาผลประกอบการที่เป็นที่น่าพอใจได้อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการถือหุ้นในสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ 99.99% แต่ไม่ปรากฎว่าบริษัทได้ใช้ความเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บังคับให้สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ทำข่าวเพื่อแก้ต่าง หรือเพื่อประโยชน์ในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัท SLC แต่อย่างใด
สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ยังคงมีความเป็นอิสระในการทำข่าว เพื่อมุ่งเน้นประโยชน์ต่อสาธารณะ (Public Interest) มากกว่าประโยชน์ส่วนตน (Private Interest) มาโดยตลอด แต่หากบริษัทใดหรือผู้บริหารคนใด ได้ดำเนินการโดยละเว้นข้อกฎหมาย และจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น SLC จะใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นดำเนินการกับผู้บริหาร หรือสื่อที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพอย่างเด็ดขาด ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ว่า SLC พยายามที่จะครอบงำสื่อ หรือแทรกแซงสื่อทำให้ขาดความเป็นอิสระ หรือเป็นเครื่องมือของนักการเมือง หรือมีบุคคลอื่นที่อยู่เบื้องหลัง จึงเป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมและส่อเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริง
การที่สื่อ ผู้บริหารหรือคอลัมนิสต์บางคนพยายามเกี่ยวโยงการลงทุนของ SLC กับการลงทุนของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ให้สาธารณะชนเกิดความรู้สึกว่าเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน และมีการพาดพิงไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพพจน์และชื่อเสียงของบุคคลเหล่านั้น ทั้งนี้ บุคคลบางท่านที่ถูกพาดพิงไม่ได้เป็นถือหุ้นของ SLC และ/หรือ NMG แต่อย่างใด การลงทุนของ SLC เป็นการลงทุนโดยอิสระและเปิดเผย มีการกำหนดนโยบายและทิศทางในการดำเนินงานต่างๆ ผ่านทางคณะกรรมการของบริษัท เพื่อประโยชน์ของบริษัทต่างๆที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัท
ทั้งนี้ SLC ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ หรือมีการหารือเพื่อตกลงร่วมกัน หรือมีความร่วมมือไปในทิศทางเดียวกัน กับกลุ่มบุคคลหรือบริษัทที่ถูกอ้างถึง แต่อย่างใด การสรุปรวมว่าทุกๆคนที่ลงทุนมีความเกี่ยวโยงกัน และกล่าวหาบุคคลดังกล่าวโดยอาศัยประโยชน์ความเป็นสื่อ กระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน (Private Interest) จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อคุณธรรมและจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี อย่างเห็นได้ชัดเจน
ดังนั้น เพื่อเป็นการปกปักษ์รักษาชื่อเสียงของบริษัท ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ถูกพาดพิง จากข้อเขียนซึ่งเป็นความเท็จ ใส่ร้ายป้ายสี ตลอดจนบุคคลที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้น SLC จะดำเนินคดี ทั้งคดีทางอาญาและฟ้องเรียกความเสียหายทางแพ่งเพื่อให้หลาบจำ โดยค่าเสียหายทั้งหมดหากได้รับมานั้นจะไม่หักค่าใช้จ่ายและจะนำเงินดังกล่าวบริจาคให้กับองค์กรหรือกองทุนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาวงการสื่อมวลชน เพื่อให้เป็นที่พึ่งของสาธารณะชนได้อย่างแท้จริง ซึ่งการฟ้องร้องบุคคลนั้นจะไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับองค์กรหรือสถาบันที่บุคคลนั้นสังกัดอยู่ เนื่องจากเป็นการกระทำส่วนบุคคล
พร้อมกันนั้น SLC จะร้องเรียนไปยังสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ซึ่งมีนายเทพชัย เป็นนายกสมาคม และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ซึ่งมีนายก่อเขต จันท์เลิศลักษณ์ พนักงานของ NMG เป็นประธาน ถึงข่าว บทความ และพฤติกรรมบางประการที่กระทำขัดต่อหลักจริยธรรมจรรยาบรรณ เพื่อให้ตรวจสอบและลงโทษผู้บริหารของสื่อในเครือเนชั่นต่อไป
และเรียกร้องไปยังกองบรรณาธิการเครือเนชั่น ให้ยื่นคำขอให้ นายสุทธิชัย หยุ่น และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างการเป็นผู้ถือหุ้น กับการทำหน้าที่ในกองบรรณาธิการเครือเนชั่น เพื่อรักษาความเป็นกลาง ไม่มีความขัดกันด้านผลประโยชน์ และจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อได้อย่างแท้จริง และ
รวมทั้งขอให้กรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ปลดนายเทพชัย ออกจากนายกสมาคมฯ เนื่องจากมีพฤติกรรมใช้ตำแหน่งและความไว้วางใจที่ได้รับจากสมาคมฯ นำสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยไปร่วมจัดกิจกรรมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนบุคคลของผู้บริหารบางคนในเครือเนชั่น กรณีดังกล่าวมีข้อวินิจฉัยในความเป็นกลาง อันเนื่องมาจากการขัดกันในด้านผลประโยชน์ ซึ่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับเครือบริษัทเนชั่น