"รายได้ปีนี้โตน้อยกว่าปกติที่โต 10-15% เพราะไม่แน่ใจว่าจะเปิดประมูลงานเร็วช้าแค่ไหน รายได้ปีนี้ตั้งเป้าไว้น้อยไว้ก่อน ถ้ามีงานประมูลค่อยปรับประมาณการกันใหม่"นายวรพันธ์ กล่าว
ในปี 57 ที่ผ่านมา STEC ได้งานใหม่ 2.5 หมื่นล้านบาทดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2 หมื่นล้านบาท แม้ว่าช่วง 11 เดือนแรกมีงานใหม่เพียง 5 พันล้านบาท แต่ในเดือน ธ.ค.57 กลับมีงานใหม่เข้ามามาก ได้แก่ งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่ชนะการประมูลมา 2 สัญญา รวมมูลค่างานประมาณ 7 พันล้านบาท และได้รับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาทของกลุ่มกัลฟ์อิเล็คทริค ซึ่งเป็นการรับเหมาช่วง จึงทำให้งานในมือของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นมากในช่วงปลายปี
ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรับงานใหม่ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 25% ของมูลค่างานโครงการภาครัฐที่จะเปิดประมูลปีนี้รวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท ได้แก่ รถไฟทางคู่ 5-6 เส้นทาง งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน มูลค่าโครงการราว 5 หมื่นล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี รวมระบบรถโมโนเรล มูลค่าโครงการราว 4 หมื่นล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง รวมระบบรถโมเนเรล มูลค่าโครงการ 5 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมโครงการการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ที่มีแนวโน้มจะเปิดประมูลในปีนี้ แต่ยังต้องติดตามความชัดเจนก่อน
ส่วนงานภาคเอกชน ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะมีโครงการใหม่ออกมามากนัก ยกเว้นธุรกิจไอทีที่คาดว่าจะมีการประมูล 4G เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี ส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกและธุรกิจท่องเที่ยว ขณะที่ในประเทศยังมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่
"คิดว่างานประมูลภาครัฐในครึ่งปีแรกไม่ค่อยได้เห็นอะไร น่าจะเห็นชัดเจนในครึ่งปีหลัง รัฐบาลอยากจะเร่งผลักดันโครงการ แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยังติดขัดอยู่"นายวรพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ที่รับผิดชอบการเปิดประมูลโครงการถไฟฟ้า ขณะนี้เพิ่งคัดเลือกผู้ว่าการ รฟม.แต่ยังต้องรอผลการอุทธรณ์ของรองผู้ว่า รฟม.ที่คัดค้านการสรรหาผู้ว่า รฟม.ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ที่รับผิดชอบโครงการรถไฟทางคู่นั้นได้ผู้ว่า รฟท.คนใหม่แต่ยังไม่ได้มีผลให้เริ่มงานได้
นายวรพันธ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบ 300-400 ล้านบาท ลงทุนเครื่องจักรใหม่เพื่อทดแทนเครื่องจักรเก่า จากปีก่อนที่ใช้เงินลงทุน 700-800 ล้านบาท ที่ขยายกำลังการผลิตพรีคาสท์ในโรงงานแห่งใหม่ที่ปทุมธานี ซึ่งสามารถรองรับงานโครงการรถไฟฟ้า 3 โครงการได้พร้อมกัน
*เล็งลงทุนรีสอร์ที่หัวหิน
นายวรพันธ์ กล่าวว่า บริษัทได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาไปศึกษาข้อมูลการดำเนินโครงการรีสอร์ทที่หัวหิน ซึ่งบริษัทได้ซื้อที่ดินไว้ 14 ไร่ติดชายทะเล คาดว่าจะพัฒนาเป็นวิลล่า หรือโรงแรมและอาคารเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ทั้งนี้ ที่ปรึกษาจะสรุปผลการศึกษาราวปลายไตรมาส 1/58 ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือกว่า 5 พันล่านบาทเพียงพอที่รองรับการลงทุนดังกล่าว
ส่วนที่ดินย่านบางนา พื้นที่ 28 ไร่ ขณะนี้ขอรอดูความชัดเจนโครงการถไฟฟ้าสายสีเหลืองก่อน หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติ และมีกำหนดการเปิดประมูลแน่นอนแล้ว ก็จะดำเนินโครงการต่อไป
"เราต้องการแตกไลน์ขยายธุรกิจไปอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ที่หลากหลายให้กับบริษัท"นายวรพันธ์กล่าว
สำหรับการเข้าซื้อ บริษัท ซัสโก้ ลูบริแคนท์ส จำกัดนั้น บริษัทจะใช้เป็นบริษัทรับเหมาช่วง จะไม่ได้ทำธุรกิจจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น และใช้เป็นหน่วยสนับสนุนธุรกิจ เหมือนเป็นบริษัท supply เครื่องจักร นอกจากนี้ บริษัท ซัสโก้ ลูบริแคนท์ส จำกัด มีขาดทุนสะสม STEC ก็จะได้ประโยชน์ด้านภาษี