นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ DEMCO เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่องมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาททั้งภาครัฐและเอกชน โดยคาดหวังจะได้รับงานราว 7.7 พันล้านบาท รวมถึงงานก่อสร้างเสาโครงเหล็กเครือข่ายสัญญาณ 3G ที่ยังมีความต้องการจากผู้ประกอบการ คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งงานก่อสร้างและจำหน่ายเสาโครงเหล็กมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 4-6%
ขณะที่บริษัทจะมีเงินปันผลจากการลงทุนเข้ามาอีกเกือบ 200 ล้านบาทที่จะบันทึกเป็นกำไรสุทธิในปีนี้ และยังอยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 16 เมกะวัตต์ เป็นการถือหุ้นร่วมกับพันธมิตรต่างชาติ โดย DEMCO ถือในสัดส่วนโครงการละ 15-20% คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการแรกได้ภายในครึ่งปีแรก โครงการดังกล่าวได้รับการคิดค่าไฟจากภาครัฐในรูปแบบ FiT ที่ราคา 5.04 บาท/หน่วย ผลตอบแทนการลงทุนราว 16%
ทั้งนี้ นอกจากเป็นผู้ร่วมผลิตแล้วบริษัทยังได้รับงานก่อสร้างงานโรงไฟฟ้าดังกล่าวมูลค่าโครงการละ 600 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือนต่อโครงการ โดยหากโครงการแรกแล้วเสร็จได้เร็วกว่ากำหนดในปีนี้ก็จะเพิ่มเป็นรายได้พิเศษเข้ามาอีก
พร้อมกันนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาสัมปทานเป็นผู้ดำเนินการระบบสาธารณูปโภคในลาวปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า โดยโครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าลงทุนราว 1,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้รับอนุญาตให้สำรวจและเสนอราคาจากทางการลาวและอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพิจารณาแล้ว
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวถึงการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ WEH โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือนเพื่อเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่มีอยู่ในมือ รวมถึงแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทมีความสนใจที่จะซื้อหุ้นของ WEH เพิ่มจากที่ถืออยู่ราว 4% แต่ต้องรอดูราคาเหมาะสม กระแสเงินสดที่มีอยู่ในมือ และผลตอบแทนจากการลงทุนว่าคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคตที่จะตัดสินใจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ภายในเดือนนี้จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นของ WEH เพื่อปรับโครงสร้างของคณะกรรมการบริหาร รวมถึงการลดสัดส่วนถือหุ้นของนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ที่มีปัญหาคดีความ ซึ่งถือในบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น(REC) 75% โดย REC ถือหุ้น WEH 63% ซึ่งทางธนาคารจะไม่ปล่อยเงินกู้ยืมให้กับ WEH ในการนำไปก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหากยังไม่มีการลดสัดส่วนการถือหุ้นของนายนพพร
และหลังจากนั้นคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามาซื้อหุ้นต่อจากนายนพพร โดยปัจจุบันได้รับการติดต่อจากกองทุนในประเทศสิงคโปร์และญี่ปุ่นรวมถึงกองทุนส่วนบุคคลในประเทศไทย เพื่อเข้าขอซื้อหุ้นในสัดส่วนดังกล่าวแล้ว
ปัจจุบัน WEH มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 12 โครงการ ดำเนินการผลิตไปแล้ว 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ที่รอการก่อสร้าง ซึ่งต้องให้การปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นแล้วเสร็จก่อน ขณะที่ได้รับใบอนุญาตขายไฟฟ้าแล้วอีก 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 360 เมกะวัตต์อยู่ในมือ รวมถึงมีผลกำไรจากการลงทุนเข้ามาอีกปีละกว่า 500 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจสูง