ภาพรวมธุรกิจรับเหมาโครงการในปี 2558 คาดว่าจะมีงานในมือประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เตรียมเซ็นสัญญารับงานใหม่อีก 2 โครงการในช่วงต้นปี มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานของภาครัฐ และยังอยู่ระหว่างการเจรจางานใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2 พันล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมพร้อมที่จะเข้าบุกตลาดอสังหาฯแนวราบ โดยในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการอสังหาฯแนวราบ ย่านถนนหทัยราษฎร์ เนื่องจากมองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ยังมีอยู่มาก อีกทั้ง แนวโน้มดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกอาจเห็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตาม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้เป็นอย่างดี โดยล่าสุด ในปีที่ผ่านมาโครงการเดิมได้มีการโอนให้กับลูกค้าแล้วกว่า 100 ยูนิต
นอกจากนี้ การที่ TPCH ซึ่งเป็นบริษัทลูก สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ได้ตามแผนจะทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งยังได้รับงานรับเหมาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของ TPCH จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ได้วางเอาไว้ ล่าสุด 2 โรงไฟฟ้าชีวมวลในจังหวัดพัทลุง และสตูล ได้รับใบอนุญาต รง. 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผมมั่นใจว่าในปีนี้ธุรกิจของเราจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างแน่นอน โดยคาดว่ารายได้และกำไรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวมประมาณ 3,400 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากปัญหาการเมือง ทำให้ภาครัฐและเอกชนชะลอการลงทุน”นายไชยณรงค์กล่าว