ทั้งนี้ บริษัทได้แยกโครงการลงทุน 2 รายการดังกล่าวออกจากแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ที่มีมูลค่าประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท เพื่อให้เตรียมการได้ทันรองรับผู้โดยสารที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยส่วนที่เหลือในแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 จะนำเสนอในเดือนถัดไป
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนลงทุนขยายท่าอากาศยานดอนเมือง เฟส 3 มูลค่า 7.2 พันล้านบาท ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มเป็น 30 ล้านคน/ปี หลังจากเฟส 2 ที่แล้วเสร็จในเดือน ส.ค.58 รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 18 ล้านคน/ปี รวมทั้งแผนขยายท่าอากาศยานภูเก็ต งบลงทุน 5.79 พันล้านบาท
นางพูลศิริ กล่าวว่า สำหรับแหล่งเงินลงทุนมีแนวโน้มที่จะจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายให้ดำเนินการเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระหนี้สาธารณะ นอกจากนี้ยังพิจารณาแนวทางการใช้ทุนของบริษัทเองซึ่งปัจจุบันมีกระแสเงินสดในมือ 4.4 หมื่นล้านบาท และแนวทางการออกหุ้นกู้
"เราจะนำเสนอบอร์ดเรื่องแนวทางการจัดหาแหล่งเงิลงทุน ถ้าทำทุกโครงการพร้อมกันก็จะช็อต ถ้าจะให้ใช้เงินบริษัทเองลงทั้งหมดก็จะทำให้บริษัทไม่ม่สภาพคล่อง ส่วนการออกหุ้นกู้จะได้ต้นทุนต่ำ อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็ต้องการให้ทำ IFF ซึ่งเราศึกษาไว้พร้อมแล้ว"นางพูลศิริ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้เร่งให้ AOT หาข้อสรุปการจัดหาแหล่งเงินที่จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 21 ม.ค.นี้ และคาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ในเดือน ก.พ.
ทั้งนี้ได้ให้ AOT นำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) และ คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.)หรือซุปเปอร์บอร์ด ให้พิจารณาอนุมัติ ขณะเดียวกัน AOT ก็จะนำเรื่องส่งมากระทรวงคมนาคมและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาด้วย
ส่วนการออกร่างประกวดราคา(TOR)งานทางวิ่งเส้นที่ 3 และอาคารผู้โดยสารใหม่นั้น หากครม.อนุมัติก็จะได้เปิดประกวดราคาได้เร็ว เพื่อเร่งงานก่อสร้างได้เร็วขึ้น
*ผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิปี 58 เพิ่มเป็น 50 ล้านคน
นายประพนธ์ ปัทมกิจสกุล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่า จำนวนผู้โดยสารในงวดปี 58 (ต.ค.57- ก.ย.58) จะมีจำนวน 50 ล้านคน เพิ่มขึ้นราว 6% จากงวดปี 57 (ต.ค.56-ก.ย.57) ที่มีจำนวนผู้โดยสาร 46.5 ล้านคน โดยมีนักท่องเที่ยวจีนเป็นอันดับหนึ่ง 5-6 ล้านคน รองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 4 ล้านคน อันดับ 3 เป็น เกาหลี อันดับ 4 รัสเซีย อินเดีย ที่มีตัวเลขใกล้เคียงกัน
ในงวดไตรมาส 2 /58 (ม.ค.-มี.ค.58) คาดว่าจำนวนผู้โดยสารเติบโต 2% จากปีก่อน หรือมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 1.5 แสนคน/วัน แม้ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว แต่เนื่องจากยังมีการบังคับใช้กฎอัยการศึก และภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ค่อยดีนัก ทำให้ประมาณการไว้ไม่สูงมาก แต่แนวโน้มธุรกิจดีขึ้นกว่างวดไตรมาส 1/58 (ต.ค.-ธ.ค.57) ที่จำนวนผู้โดยสารในเดือน ต.ค.-พ.ย.ติดลบ แต่ฟื้นตัวขึ้นมาในเดือน ธ.ค. หรือเติบโต 5-7% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ในงวดไตรมาส 3/58 (เม.ย.-มิ.ย.) ก็คาดหวังว่าจะเติบโตได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เป็นช่วงเกิดรัฐประหารซึ่งนักท่องเที่ยวหายไปมาก
นายประพนธ์ กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารเกินกว่าขีดความสามารถที่รับได้ 45 ล้านคน/ปี โดยในปี 55 จำวนผู้โดยสารขึ้นไปเป็น 53 ล้านคน ดังนั้น จึงเตรียมจัดหาเครื่องมือเทคโนโลยีให้ผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกสามารถได้รับบริการได้รวดเร็ว และได้รับความร่วมมือจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จัดเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรณภูมิยังคงมีสภาพแออัดไปจนกว่าการขยายท่าอากาศยานสวุรรณภูมิ เฟส 2 สร้างแล้วเสร็จในปี 61 ที่จะสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ 65 ล้านคน/ปี