"ภาพรวมตลาดสินค้าไอทีปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวจากปีก่อนเล็กน้อย ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น แต่ในช่วงไตรมาส 1/58 จะยังฟื้นตัวที่ค่อนข้างช้า เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศยังไม่มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น แต่เชื่อว่าทั้งปีก็คงจะดีกว่าปีที่แล้ว โดยผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตยังเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อยู่ ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากคนยังมีความต้องการใช้แล็ปท็อปในชีวิตประจำวันและในการทำงานอยู่"นางสาวสุธิดา กล่าว
นางสาวสุธิดา กล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ บริษัทคาดว่าในไตรมาส 3/58 จะขยายธุรกิจไปยังประเทศกัมพูชาในรูปแบบตัวแทนการจัดจำหน่ายสินค้าไอที เนื่องจากมองเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดในประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มสินค้าไอที ที่มีความต้องการอยู่ค่อนข้างมาก โดยปัจจุบันบริษัทได้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าไอทีในลาวและเมียนมาร์ โดยมียอดขายรวมอยู่ที่กว่า 300 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะเติบโต 100% เป็น 600 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ารายได้จากต่างประเทศจะแตะ 1 พันล้านบาท ในปี 59
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการในไลน์ธุรกิจเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ในปีนี้ 1 แห่งจากที่เจรจาอยู่ 3 แห่ง โดยมีมูลค่าลงทุนในระดับหลักร้อยล้านบาท
บริษัทยังมีแผนการนำบริษัท Prism Solution จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ดำเนินธุรกิจรับวางระบบไอที เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยใน1-2 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวและปรับปรุงบริษัทให้มีความพร้อมมากขึ้นก่อนการเข้าตลาด ซึ่งปัจจุบันบริษัทดังกล่าวมีกำไรสุทธิหลักร้อยล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ 10% ขณะที่บริษัทจะผลักดันให้ธุรกิจของบริษัท ย่อยเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายใน 2-3 ปี
นางสาวสุธิดา กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานปี 57 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรสุทธิต่ำกว่าปี 56 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 221.84 ล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจากสินค้าบางยี่ห้อให้อัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำและมียอดขายที่ไม่ดี ขณะที่รายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.9 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะได้รับผลกระทบทางการเมืองในช่วงต้นปีบ้าง แต่บริษัทได้พยามเรื่องการขายสินค้าในช่วง ไตรมาส 4/57 เพื่อผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น