นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ IHL เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเบาะหนังรถยนต์ คาดว่าในปีนี้ยอดขายน่าจะเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ที่น่าจะเริ่มดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับลดลงน่าจะหนุนตลาดรถยนต์ และจะส่งผลบวกต่อการใช้เบาะหนังให้เพิ่มขึ้นด้วย
"ปีนี้น่าจะดี ดีจากราคาน้ำมันปรับลง เศรษฐกิจมวลรวมน่าจะดี ในภาคของอุตฯรถยนต์ก็น่าจะดีขึ้น ปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมเพิ่มขึ้น 15% จากธุรกิจที่ทำอยู่ปัจจุบันผลิตเบาะหนังรถยนต์ ขณะที่ปีก่อนรายได้พลาดเป้าเล็กน้อย จากเป้าเดิม 2 พันกว่าล้านบาท เนื่องจากอุตฯยานยนต์ชะลอตัว"นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวอีกว่า รายได้รวมในปี 57 ที่ผ่านมา อาจทำได้ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย เนื่องจากยังรับผลกระทบต่อเนื่องจากภาวะชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่เชื่อว่ารายได้ในปีที่แล้วจะยังอยู่ในระดับที่สูงจากปี 56 ขณะที่ในส่วนของกำไรสุทธิก็ไม่ได้ขี้เหร่
อนึ่ง ปี 56 รายได้รวมที่ 1,797 ล้านบาท กำไรสุทธิ 197 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนปี 57 รายได้รวม 1,308 ล้านบาท กำไร 154 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์รายเดือนของไทยหดตัวต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพ.ค.56 หลังจากสิ้นสุดการส่งมอบรถยนต์ในโครงการคืนภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์คันแรกหมดแล้ว ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์ของไทยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 57 อยู่ที่ 1,726,338 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24.88%
นายองอาจ คาดว่ายอดผลิตรถยนต์ของไทยในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านคัน ซึ่งจะทำให้มีการใช้เบาะหนังเติบโตไม่เกิน 12% ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงก็น่าจะกระตุ้นตลาดรถยนต์และการใช้เบาะหนังเพิ่มขึ้นด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นยอดการใช้เพิ่มขึ้นที่ชัดเจน คงต้องใช้เวลาในระยะหนึ่ง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบหนังสัตว์ยังอยู่ในระดับทรงตัว ไม่มีทิศทางที่จะเพิ่มขึ้น
"ปีนี้น่าจะดูดีกว่าปีที่แล้วที่เป็นปีที่ค่อนข้างต่ำ ปีนี้ราคาน้ำมันปรับลงทำให้คนซื้อรถยนต์มากขึ้น ก็คาดการณ์ว่าจะเป็นเช่นนั้น"นางองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวอีกว่า บริษัทยังจะได้รับประโยชน์จากการที่ค่ายรถยนต์รายใหญ่จะออกรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาทุกๆปี โดยเฉพาะค่ายรถญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับออเดอร์จากส่วนนี้ด้วย ขณะที่ธุรกิจเสริมด้านการผลิตหนังทำรองเท้า กระเป๋า และหนังทำเฟอร์นิเจอร์ปีนี้ก็ยังมีทิศทางที่ดี
ปัจจุบัน สินค้าหลักของบริษัทยังอยู่ในกลุ่มเบาะหนังรถยนต์ 80-85% ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มรองเท้า กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทในปีนี้ ตั้งงบลงทุนไว้ที่กว่า 100 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายโรงงานฟอกหนัง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 58 รองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น โดยจะยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ในปีนี้