"ปีนี้เรายังวางเป้าหมายหมายการเติบโตของรายได้ที่ไม่น้อยกว่า 20% และจะรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งเรามีแผนที่จะลงทุนเพื่อขยายสาขา และทำเว็ปไซต์ใหม่เพื่อเพิ่มยอดขายผ่านออนไลน์ ซึ่งในปีนี้เองเราจะดำเนินธุรกิจแบบระมัดระวังเนื่องจากเศรษฐกิจในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนสูงในเรื่องของการเติบโต"นายแพทย์สุวิน กล่าว
นายแพทย์สุวิน กล่าวอีกว่า งบลงทุนในปีนี้ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น การใช้ขยายสาขา 140 ล้านบาท โดยจะขยายสาขาของ BEAUTY BUFFET จำนวน 30 สาขา, BEAUTY COTTAGE จำนวน 15 สาขา และ BEAUTY MARKET จำนวน 10 สาขา นอกจากนั้นจะใช้ในการขยายคลังสินค้า และศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน ซึ่งเป็นงานที่ลงทุน ต่อเนื่องอีก 160 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังจะใช้งบอีก 20 ล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบไอที โดยบริษัทอยู่ระหว่างทำเว็บไซต์ใหม่ ให้เชื่อมต่อกับ Facebook เพื่อจะเพิ่มยอดขายออนไลน์ โดยคาดว่าจะสามารถเชื่อมต่อแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 1/58
สำหรับแผนขยายสาขาในต่างประเทศส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะแฟรนไชส์ เน้นในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา, ลาว, พม่า และเวียดนาม เป็นหลัก โดยบริษัทเตรียมเปิดสาขาใหม่ในปีนี้อีก 12-15 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาอยู่ 16 สาขา
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายจาก BEAUTY BUFFET สัดส่วน 78% ,BEAUTY BUFFET สัดส่วน 11% ,BEAUTY MARKET สัดส่วน 4% ,ต่างประเทศ 1% และช่องทางการซื้อขายคอนซูเมอร์ มาร์เก็ต และออนไลน์ 1.8% เป็นต้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มคอนซูเมอร์ และออนไลน์ เป็น 4% โดยจะเน้นขยายฐานลูกค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้น
นายแพทย์สุวิน กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 57 คาดว่าจะมีรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.3 พันล้านบาท หลังจากรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 57 เติบโตได้กว่า 30% และไตรมาสสุดท้ายของปีเป็นช่วงไฮซีซั่นก็จะมีส่งผลดีต่อยอดขาย
"ในปีที่ผ่านมารายได้เราทะลุเป้าหมายที่วางไว้ถึงแม้ในช่วงครึ่งปีแรกจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองบ้าง แต่หลังจากที่การเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว นักท่องเที่ยวก็เริ่มกลับเข้ามามากขึ้น การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนก็ดีขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันเรายังได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อที่จะกระตุ้นตลาด ทำให้ผลประกอบการของเราเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"นายแพทย์สุวิน กล่าว