สำหรับการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคของลาวในครั้งนี้การลงทุนในเฟสแรกประมาณ 480 ล้านบาท และทยอยลงทุนเพิ่มทุก 3 ปี สัญญาสัมปทาน 30 ปี อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ 13-14% ต่อปี โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงปลายปีนี้
“ถือเป็นก้าวแรกในการลงทุนในลาว เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ส่วนการที่เราเลือกลาวเป็นประเทศแรก เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 3 หมื่นเมกกะวัตต์ นั่นหมายความว่า สิ่งที่ลาวต้องดำเนินคือ สายส่งและสถานีไฟฟ้า ทำให้เรามองว่าลาวเป็นตลาดที่น่าสนใจ และเราเองก็มีความชำนาญในด้านวิศวกรรมไฟฟ้าอยู่แล้ว"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท เด็มโก้ เดอร์ ลาว จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้นของ DEMCO อยู่ที่ 90% และพันธมิตรถือหุ้น 10% ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท และจะทยอยเพิ่มทุนในระหว่างปี 58 ทั้งสิ้น 150 ล้านบาท
ส่วนงานในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ บริษัทได้เซ็นสัญญาก่อสร้างงานสถานีไฟฟ้าโครงการแรกมูลค่า 90 ล้านบาทเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมเข้าประมูลงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแห่งใหม่มูลค่างานประมาณ 500 ล้านบาท โดยร่วมกับพันธมิตรกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ คาดว่าจะเป็นการเปิดตลาดเออีซีเป็นประเทศที่สอง
กรรมการผู้จัดการ DEMCO กล่าวว่า ปี 58 จะเป็นปีที่ดีที่สุดปีหนึ่งของบริษัท ซึ่งนอกจากจะมาจากการเติบโตของงานก่อสร้างโครงการพลังงานทดแทนกลุ่มโซล่าฟาร์ม เติบโตจากการขยายตลาดโครงการสัมปทานสาธารณูปโภคและงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าในลาวและเมียนมาร์แล้ว บริษัทยังมุ่งที่จะเพิ่มการลงทุนโครงการพลังงานทดแทนจากเดิมที่เป็นผู้ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวม 40 เมกกะวัตต์
ในปีนี้บริษัทจะเพิ่มการลงทุนในโรงไฟฟ้าขยะ 16 เมกกะวัตต์ โซล่าร์ฟาร์มในหน่วยงานราชการ 60-70 เมกกะวัตต์รวมถึง พิจารณาร่วมทุนกับผู้พัฒนาโครงการพลังงานลมในประเทศอีก 1-2 ราย ซึ่งจะทำให้โครงสร้างกำไรของบริษัทมาจากเงินปันผลปีละไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทในปี 60