ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายและรายได้ปีนี้เติบโตราว 10% โดยรายได้จะเพิ่มขึ้นแตะ 100 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 200-300 ล้านบาท มีกำหนดจะรับรู้ยอดโอนเข้ามาในปีนี้ราว 100 ล้านบาท
"ปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายแตะ 100 ล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ 200-300 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ในปีนี้ 100 ล้านบาท ขณะที่ก็มีแผนเปิดโครงการอีก 1 โครงการ ซึ่งก็ยังเป็นโครงการบ้านเดี่ยว มูลค่า 400 ล้านบาท น่าจะแล้วเสร็จได้ต้นปี 59 และยังมีการเจรจากับพันธมิตรเพื่อทำโรงแรมอีกในปีนี้ ก็มองว่าทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันรายได้ที่จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต"นายวิรัตน์ กล่าว
สำหรับงบลงทุนในปีนี้วางไว้ 400-500 ล้านบาทเพื่อใช้พัฒนาโครงการต่าง ๆ โดยเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทเอง แต่ยังไม่มีแผนซื้อที่ดินเพิ่ม เนื่อวจากปัจจุบันบริษัทมีที่ดินอยู่แล้วกว่า 1,000 ไร่สามารถรองรับการพัฒนาโครงการที่จะเกิดในอนาคตไปอีก 4-5 ปี
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มีแนวโน้มทรงตัว จากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวน่าจะเป็นตัวช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมเติบโตไปได้บ้าง โดยเฉพาะโรงแรมที่อยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะเห็นได้จากยอดนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 70% ในช่วงที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยว คือ เศรษฐกิจยุโรปที่ยังมีปัญหา ทำให้ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลง นักท่องเที่ยวจากยุโรปจึงมีการจับจ่ายใช้สอยที่น้อยลงตามไปด้วย
ส่วนเรื่องการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น BROCK ในช่วงก่อนหน้านี้ มองว่าเป็นไปตามการลงทุนของนักลงทุน ขณะที่กระแสข่าวที่ปล่อยออกมาว่าบริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้น และเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจงนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากคณะกรรมการของบริษัท ยังไม่ได้มีการประชุมหรือมีมติใดๆ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีพันธมิตรเข้ามาเจรจาร่วมทำธุรกิจกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ ในขณะนี้
เมื่อเวลา 15.44 น.หุ้น BROCK ร่วงลงแรงถึง 21.21% มาอยู่ที่ 3.12 บาท หรือลดลง 0.84 บาท หลังจากบริษัทออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าจะมีการแตกพาร์และเตรียมออกหุ้นเพิ่มทุน PP เสนอขายให้กลุ่มเซ็นทรัล