"ปีนี้น่ากำไรน่าจะดีกว่าปีที่แล้ว รายได้โตตามผู้โดยสาร ภาพรวมปีนี้ ผู้โดยสารโตไม่ต่ำกว่า 7%...มาจากผู้โดยสาร low cost airline ปีนี้โตมาก โตได้ 15%"นายประสงค์ กล่าว
งวดปีที่แล้วสิ้นสุด 30 ก.ย.57 AOT มีรายได้รวม 39,770 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12,220.37 ล้านบาท
นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ AOT คาดว่ารายได้งวดปี 58 จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับจำนวนผู้โดยสารในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 7% จาก 87.57 ล้านคนในปีที่แล้ว เนื่องจากสายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ได้รับความนิยมจากผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาก โดยเติบโตถึง 15% จาก 17-18 ล้านคนในปีก่อน ทำให้จำนวนผู้โดยสารทั้งท่าอากาศยานดอนเมืองเติบโตขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่วันนี้คณะกรรมการ AOT ให้ความเห็นชอบโครงการก่อสร้างทางวิ่งสำรอง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวงเงิน 20,243.106 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 27,684.392 ล้านบาท เมื่อรวมทั้ง 2 โครงการจะมีมูลค่าเงินลงทุน 4.7 หมี่นล้านบาท ซึ่งจะใช้งบประมาณส่วนหนึ่งของปี 58 และให้ AOT ตั้งงบประมาณลงทุนจัดทำเป็นโครงการประจำปี 59-62 รองรับต่อไป พร้อมทั้งเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอน
นายประสงค์ กล่าวว่า แหล่งเงินลงทุนทั้งสองโครงการนี้จะนำมาจากเงินสดของบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ 4 หมี่นกว่าล้านบาท และ จากกำไรที่มีประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท/ปี โดยคาดว่าการลงทุนดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องระยะสั้นในช่วงปี 62-63 ทำให้บริษัทได้มีการศึกษาการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานไว้รองรับแล้ว โดยคาดว่าจะระดมทุนไม่มากนัก
สำหรับโครงการงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในต้นปี 62 และจะมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 80 ล้านคน/ปี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงปี 67 ส่วนโครงการก่อสร้างทางวิ่งสำรองอยู่ระหว่างรอการพิจารณาผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (EHIA) จากคณะกรรมการผู้ชำนาญการของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วจะดำเนินการก่อสร้างทางวิ่งให้ใช้งานได้ที่ความยาว 3,700 เมตร และให้เป็นทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 62
นายประสงค์ กล่าวถึงโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ที่จะมีการปรับลดวงเงินลงทุนที่ประมาณการไว้กว่า 6 หมื่นล้านบาทว่า ยังเหลืองานหลัก ได้แก่ งานหลุมจอด ซึ่งจะนำเสนอในการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งหน้า และการใช้นโยบายท่าอากาศยาน 2 แห่งทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติ จะทำให้ผ่อนคลายความคับคั่งของผู้โดยสารได้ โดยที่ผ่านมามีสถิติสูงสุดที่รองรับผู้โดยสารถึง 47 ล้านคน/ปี ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้เร่งขยายเฟส 2 กำหนดแล้วเสร็จภายในส.ค.58 จากเดิมจะแล้วเสร็จในก.ย.57 และจะรองรับจำนวนผู้โดยสารได้เพิ่มเป็น 30 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันรองรับได้ 18 ล้านคน/ปี
ขณะที่งานขยายท่าอากาศยานภูเก็ต มีความล่าช้าไปจากแผนไปมาก โดยได้เจรจาผู้รับเหมาเพื่อเร่งงานทำให้แล้วเสร็จประมาณก.ย. 58 สำหรับอาคารใหม่ ส่วนงานปรับปรุงอาคารเดิมจะแล้วเสร็จ ก.พ. 59
นายประสงค์ กล่าวอีกว่า วันนี้คณะกรรมการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้คัดเลือก นายนิตินัย ศิริสมรรถการ เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของ AOT คนใหม่ โดยนายนิตินัย เคยดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายงานพัฒนาธุรกิจการตลาดของ AOT ระหว่างปี 53-55 ขั้นตอนต่อไปจะเจรจาต่อรองเงินเดือนและนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) คาดว่าจะเริ่มงานได้อย่างเร็วสุดในเดือน มี.ค.58