CKP แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงพาร์เป็นหุ้นละ 1 บาทจากเดิมหุ้นละ 5 บาท หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 9.24 พันล้านบาท จากเดิมที่ 5.5 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 3.74 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท โดยจะจัดสรรหุ้นใหม่ 1.87 พันล้านหุ้นขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 0.34 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 3 บาท
พร้อมทั้งจัดสรรหุ้นใหม่อีก 1.87 พันล้านหุ้น รองรับวอร์แรนท์ใหม่จำนวน 1.87 พันล้านหน่วย ที่จะจัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในสัดส่วน 1 หุ้นเพิมทุนใหม่ ต่อ 1 วอร์แรนท์ โดยวอร์แรนต์มีอายุไม่เกิน 5 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนท์ ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาการใช้สิทธิ 6 บาทต่อ 1 หุ้น
สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนเพื่อนำเงินที่ได้รับไปใช้ซื้อหุ้นบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด(XPCL)ในสัดส่วน 30% รวมทั้งเป็นเงินทุนสำหรับการเพิ่มทุนใน XPCL ตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นจนกว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนต่างๆของบริษัทในอนาคต
ที่ประชุมคณะกรรมการของ CKP อนุมัติให้ซื้อหุ้นของ XPCL ดังกล่าวจาก CK คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 4.34 พันล้านบาท และการเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น XPCL รวมทั้งการเพิ่มทุนใน XPCL ตามสัดส่วนการถือหุ้นจนกว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จ เป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 5.51 พันล้านบาท และการรับภารผูกพันเดิมที่ CK มีกับเจ้าหนี้สถาบันการเงินของ XPCL ทั้งนี้ คาดว่าการทำรายการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/58
ด้านคณะกรรมการ CK ได้อนุมัติการขายหุ้น XPCL ดังกล่าวให้กับ CKP โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป ทั้งนี้ เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าให้เหมาะสม และลดภาระของบริษัทในการลงทุนเพิ่มเติม โดยจะนำเงินลงทุนไปใช้เป็นเงินหมุนเวียนในอนาคต
สำหรับ XPCL เป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ในลาว มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ และจะขายไฟฟ้ากลับมาไทยจำนวน 1,220 เมกะวัตต์ เป็นเวลา 29 ปีเริ่มตั้งแต่ปี 62 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งภายหลังการซื้อหุ้นครั้งนี้ ก็จะทำให้ CKP กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน XPCL จำนวน 30% แทน CK ซึ่งจะไม่มีจำนวนหุ้นคงเหลือ