รวมถึงการเพิ่มทุนของ CKP เพื่อซื้อเงินลงทุน 30% ใน บ.ไซยะบุรีพาวเวอร์ จาก CK จะส่งผลให้ภาพการเติบโตในระยะยาวของ CKP มีความมั่นคงมากจากจำนวน MW ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังรับรู้รายได้โครงการไฟฟ้าในปี 2562
ทั้งนี้ ประเมินเบื้องต้น คาดว่า CK จะบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย บ.ไซยะบุรีพาวเวอร์สูงถึง 3,000 ล้านบาท และการปรับโครงสร้างให้ บ.ไซยะบุรีพาวเวอร์ไปอยู่ใต้ CKP จะส่งผลให้ CK รับรู้ผลขาดทุนจาก บ.ไซยะบุรีลดลงด้วยเช่นกัน
ดังนั้น คาดว่าจะเห็นการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และมุมมองต่อหุ้น CK ขึ้นเป็นบวกอย่างมีนัยสำคัญ และเป็น Catalyst โดยตรงต่อราคาหุ้น
ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะ"ซื้อ"หุ้น CK โดย CK ขายหุ้นไซยะบุรีที่ถือทั้งหมด 30% ให้ CKP เป็นมูลค่ารวม 4.34 พันล้านบาท คาดว่าจะได้กำไรประมาณ 3 พันล้านบาท และบันทึกใน 2H15 หากผู้ถือหุ้นอนุมัติ (ประชุม 9 เม.ย.) ขณะเดียวกัน CK ต้องเพิ่มทุนใน CKP (เพิ่มทุน 1:034 @3 บาท) 1.68 พันล้านบาท
ส่วนการควบรวมของ BMCL และ BECL จะช่วยให้ฐานะการเงินและการขยายการลงทุนทำได้ง่ายขึ้น และจะส่งต่อผลดำเนินงานที่ดีมาให้กับ CK ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และคงราคาเป้าหมายที่ 33 บาทไว้ก่อน
วานนี้(21 ม.ค.)หุ้น CK ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท(+3.88%)