ส่วนหุ้น BMCL อยู่ที่ 2.22 บาท ลดลง 0.16 บาท(-6.72%)มูลค่าซื้อขาย 147.22 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.20 บาท ราคาขึ้นสูสสุด 2.22 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.20 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯมองผลบวกเรื่องที่ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ(BECL)ควบรวม บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL) โดยจะ win-win กันทุกฝ่าย โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่เข้ามาอยู่ในตลาดฯแทน และจะกลืนธุรกิจของ BECL และ BMCL เข้าด้วยกัน ผู้ถือหุ้นของ BECL และ BMCL สามารถเอาหุ้นไปแลกเป็นบริษัทใหม่ ในอัตราส่วน 1 BECL : 8.65537841 บริษัทใหม่ หรือ 1 BMCL : 0.42050530 บริษัทใหม่ การกำหนดสัดส่วนที่แน่นอนทำให้ราคาหุ้นทั้ง BECL และ BMCL จะวิ่งล้อกันในที่สุด ในอัตราประมาณ 20.58 BMCL = 1 BECL
หุ้นของบริษัทมีความน่าสนใจเพราะมีรายได้ทั้ง 2 ทาง ฐานะการเงินแข็งแรงเพราะ BMCL จะล้างขาดทุนสะสมก่อนควบรวม และได้ใช้เงินของ BECL ทำส่วนต่อขยาย ส่วน CK ไม่ต้องแบกภาระเพิ่มทุนให้กับ BMCL ในวันข้างหน้า
ด้านบล.เอเชีย พลัส แนะ"เก็งกำไร"หุ้น BECL บันทึกกำไรพิเศษกว่า 4 พันล้านบาท โดยราคาปัจจุบัน BMCL ยังแพงกว่ามูลค่าพื้นฐานที่ 1.2 (รวมผลสายสีน้ำเงินแล้ว) มาก จึงแนะนำเก็งกำไร BECL ซึ่งยังถูก และมีประเด็นขับเคลื่อนราคาหุ้นได้จาก การบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย BMCL ราว 1 พันล้านบาท บวกกับกำไรพิเศษจากการขาย TTW และ CKP ก่อนหน้านี้อีกกว่า 3 พันล้านบาท (ยังไม่รวมในประมาณการ แต่เป็นกำไรทางบัญชีและไม่มีผลต่อ FV )
บริษัทประกาศแผนควบรวมกับ BMCL โดยจัดตั้งบริษัทใหม่ (รูปแบบ A + B = C) โดยมีอัตราส่วนการแลกหุ้น 1 หุ้น BECL ได้ 8.66 หุ้นบริษัทใหม่ และ 1 หุ้น BMCL ได้ 0.42 หุ้นบริษัทใหม่ ทำให้จะมีจำนวนหุ้นในบริษัทใหม่ทั้งหมด 15,285 ล้านหุ้น และสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทใหม่ของ BECL และ BMCL จะอยู่ที่ 44% : 56% ทั้งนี้ การควบรวมคาดจะเสร็จสิ้นราว 3Q58 โดยก่อนการควบรวมจะเสร็จสิ้น BECL จะขายหุ้นที่ถืออยู่ใน BMCL ในปัจจุบัน 10% ณ ราคา 1.79 บาท/หุ้น ให้บริษัทแม่คือ CK เพื่อลบรายการระหว่างกันไปก่อนการควบรวมนี้ ขณะที่ BMCL จะลดพาร์จาก 1 บาท เหลือ 0.37 บาท เพื่อล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่กว่า 1.3 หมื่นล้านบาท
อัตราส่วนการควบรวมดังกล่าว หากยึดตามราคาตลาดถือว่าใกล้เคียงกัน แต่หากยึดตาม Book value BECL จะเสียเปรียบเพราะสัดส่วนเทียบกับ BMCL จะอยู่ที่ 72% : 28% ขณะที่ ผลประโยชน์จากการควบรวมนี้ (Synergy) ในด้านของรายได้ เบื้องต้นยังไม่คาดหวังอะไรไม่ได้มากนัก เนื่องจากเป็นคนละธุรกิจ แต่ในด้านของต้นทุนการเงินอาจจะลดลงได้ โดยเฉพาะ BMCL มีต้นทุนการเงินสูง 7.5% เทียบ BMCL อยู่ที่ราว 5% ทั้งนี้ หากลดอัตราดอกเบี้ยของ BMCL ได้ 2.5% จะช่วยให้ฐานกำไรบริษัทใหม่เพิ่มราว 250 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มศักยภาพการประมูลรถไฟฟ้าในอนาคตให้ BMCL จากฐานเงินทุนที่เพิ่มขึ้นจาก BECL
อย่างไรก็ตาม ในด้านของทิศทางกำไรในบริษัทใหม่นั้นจะดูดีขึ้นกว่าแยกเป็นรายบริษัท โดยกำไรจะอยู่ที่ระดับราว 2.6 พันล้านบาทในปีนี้ และเพิ่มขึ้นในช่วง 4 ปีนี้ ด้วยอัตราการเติบโต 26% ต่อปีตั้งแต่ 2558 - 2562 ตามการเปิดรถไฟฟ้าสีม่วง (2560) และน้ำเงินส่วนต่อขยาย (2561) แตะระดับ 6 พันล้านบาท แต่ในช่วงหลังปี 2563 กำไรจะลงสู่ระดับ 3-4 พันล้านอีกครั้ง หลังสัญญาทางด่วนชั้นใน สิ้นสุดลง (ตามกราฟด้านหลัง) หากไม่ได้รับการต่อสัญญา (แต่ทั้งนี้ BECL มี First right ในการเจรจากับการทางพิเศษเป็นรายแรก)
วานนี้(21 ม.ค.)หุ้น BECL ปิดที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท(+1.19%)
หุ้น BMCL ปิดที่ 2.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท(+6.25%)