EPCO ตั้งเป้ากำไรโต 30% เดินเครื่องโซล่าร์ฟาร์มญี่ปุ่น 8-12 MW Q2/58

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 22, 2015 11:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก(EPCO)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ในปี 58 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 15-20% กำไรสุทธิเติบโต 30% จากปี 57 หลังจากสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 75% จาก 40% ในปี 57 ส่วนธุรกิจสิ่งพิมพ์จะมีสัดส่วนรายได้ลดลงเหลือ 25% จาก 60% ในปีก่อน

ในปีนี้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการแรกในประเทศญี่ปุ่นจะเปิดจ่ายไฟฟ้าได้ 8-12 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มทยอยเปิดเดินเครื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/58 และจะรับรู้รายได้เข้ามาทันที ทำให้ปีนี้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่รับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยราว 16 เมกะวัตต์ แต่ปีนี้จะเพิ่มเป็นเกือบ 30 เมกะวัตต์ และปี 59 จะเพิ่มเป็น 60-80 เมกะวัตต์

"กำไรปีนี้ (58) อยากได้โต 30% แต่รายได้น่าจะเติบโต 15-20% ซึ่งปีนี้จะมีการรับรู้รายได้และกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นเพิ่มเข้ามาทำให้โตต่อเนื่อง"นายยุทธ กล่าว

นายยุทธ กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศที่กำหนดจะทยอยสร้างโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น 6 โครงการ นอกจากนั่นยังมองหาโอกาสลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา

"ที่ญี่ปุ่นมีแผนจะทำ 6 โครงการ และยังดูเพิ่มอีกตลอดไม่หยุดเท่านี้ เป็นลักษณะร่วมทุน แต่เราถือหุ้นใหญ่เกือบ 100% นอกจากที่ญี่ปุ่นแล้วเรายังมองหาพันธมิตรร่วมลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าในต่างประเทศอื่นๆด้วย แต่คงยังไม่เพิ่มในประเทศ เพราะยังไม่มั่นใจในนโยบายของภาครัฐ ขณะที่การลงทุนในญีปุ่นมีนโยบายแน่นอนและอัตราแน่นอน

"ตอนนี้มองเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเดียวก่อน ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลมยังไม่มอง เพราะเดิมมองโรงไฟฟ้าจากขยะ ..มองไปมองมา ขยะไม่ใช่ของบริษัทแต่เป็นของสาธารณะ ถ้าเกิดไฟไหม้ก็หายไป ไม่มีวัตถุดิบ ก็ทำลำบาก ไม่มั่นคงพอสมควร ก็ดูๆ แต่ไม่ค่อยจะน่าสนใจเท่าไร"นายยุทธ กล่าว

นายยุทธ กล่าวว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาทในปีนี้เพื่อเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น โดยใช้เงินจากทุนของบริษัท 25% เงินกู้สถาบันการเงิน 75%

"ปีนี้กังวลว่าจะทำไม่ทัน และเป็นความหวังให้กับผู้ถือหุ้นด้วย ตอนนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใดๆ นโยบายยังเน้นธุรกิจโซลาร์ฟาร์มยังไปได้ดีตลอด ตราบใดที่มีแดด"นายยุทธ กล่าว

ส่วนธุรกิจเดิมคือโรงพิมพ์ คงยังเดินหน้าต่อไป เพราะยังสามารถสร้างรายได้ปีละกว่า 100 ล้านบาท ถึงแม้จะไม่มีการขยายงานเพิ่มแค่ทรงตัว

นายยุทธ กล่าวถึงผลประกอบการในปี 57 ว่า รายได้และกำไรอาจต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในช่วงต้นปีตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 90% จากปีก่อนหน้า

"ปี 57 กำไรสุทธิได้เกือบตามเป้า จากเดิมที่ตั้งเป้ากำไรโต 90% ซึ่งไม่ถึง เพราะรายได้ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย แต่รายได้รวมก็มากกว่าปี 56 แน่นอนถึงแม้จะโตไม่ถึง 30% แต่ก็ไม่ไกลจากเป้าเท่าไร เลบทำให้กำไรไม่ถึงเป้า ที่รายได้และกำไรต่ำกว่าเป้าเล็กน้อยเพราะเศรษฐกิจมีช่วงหนึ่งไม่ค่อยดี"นายยุทธ กล่าว

อนึ่ง งวด 9 เดือนแรกของปี 57 บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 157 ล้านบาท สูงกว่ากำไรทั้งปี 56 เป็นผลจากการรับรู้กำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่มีอัตรากำไรที่สูงกว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ