นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน SCN เปิดเผยว่า ล่าสุด ก.ล.ต.ได้นับ 1 แบบไฟลิ่งของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ปัจจุบันบริษัทมีทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วทั้งหมด 450 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นจำนวน 900 ล้านหุ้น
"ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน มีความเชื่อมั่นว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องด้วยสถานะทางการเงินของ บมจ.สแกน อินเตอร์ มีความแข็งแกร่ง โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 1.3 เท่า และหลังจากเข้าจดทะเบียนใน SET จะทำให้ D/E ของบริษัทลดลงไม่เกิน 1 เท่า และจากรายได้ที่มีการเติบโตเฉลี่ย 18% ต่อปีมาโดยตลอด และคาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต"นายพงศ์ศักดิ์ กล่าว
SCN เป็นผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจสถานีบริการ ก๊าซธรรมชาติหลักโดยเอกชน (Private Mothor Station) ธุรกิจขนส่งก๊าซ NGV ธุรกิจสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ ธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจออกแบบรับเหมา ติดตั้งและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ก๊าซ NGV และธุรกิจติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์
นายธัญชาติ กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCN กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปใช้ขยายโรงผลิตก๊าซธรรมชาติอัดอุตสาหกรรม(ICNG)เพิ่มอีก 1 แห่ง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 300 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทมี ICNG อยู่ 2 แห่งที่จังหวัดปทุมธานีและสระบุรี รวมถึงจะขยายกำลังการผลิตโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติอัด (PMS) อีก 20% จากเดิมราว 450 ตัน/วัน
ขณะที่เป้าหมายการเติบโต คาดว่ารายได้ปี 58 จะดีกว่าปี 57 โดยนอกจากจะให้ความสำคัญต่อพลังงานก๊าซธรรมชาติแล้ว บริษัทยังศึกษารูปแบบพลังงานทดแทนอื่นๆเพิ่มเติมด้วย อย่างเช่นไบโอแมส
อนึ่ง 9 เดือนแรกของปี 57 บริษัทมีรายได้ 1,740 ล้านบาท กำไรสุทธิ 378 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25%