นางสาวสิริรัตน์ อิทธิโรจนกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด PIMO เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะระดมทุนไปใช้ขยายโรงงาน และจัดซื้อเครื่องจักรใหม่ ที่คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนราว 10-20 ล้านบาท และการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะทำให้นักลงทุน คู่ค้า ให้ความสนใจเข้ามาร่วมลงทุนหรือร่วมธุรกิจกับบริษัทมากขึ้น และมีโอกาสขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศได้มากขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ ในวันที่ 4 ก.พ.58 บริษัทจะเซ็นสัญญาแต่งตั้งให้ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai หลังจากนั้นบริษัทฯจะแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน
นางสาวสิริรัตน์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 58 จะเพิ่มขึ้น 15% จากปี 57 ที่มีรายได้ 500 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50 ล้านบาท โดยคาดอัตรากำไรสุทธิปีนี้อยู่ที่ระดับ 10% เนื่องจากบริษัทมีแผนจำหน่ายสินค้าไปต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศแถบอาเซียน อย่าง CLMV ซึ่งจะจับมือกับพันธมิตรแต่ละประเทศในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า ประกอบกับ ลูกค้าเดิมก็มีการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ 70% และในประเทศ 30%
อนึ่ง PIMO ประกอบธุรกิจผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ มอเตอร์ที่ใช้ในอุตหกรรมทั่วไป และเครื่องสูบน้ำ ปัจจุบันบริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท