ปัจจัยที่ต้องดูสัปดาห์หน้าคือการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC)แม้คาดว่าจะ ยังไม่มีสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว และมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐยังน่าจะส่งผลต่อเชิงบวกต่อตลาดหุ้น ขณะที่ค่าเงิน บาทมีแนวโน้มกลับมาอิงทางแข็งค่าขึ้นช่วงนี้ จึงต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ว่าจะยืนยันคงอัตรา ดอกเบี้ยหรือปรับลดลง
ส่วนประเด็นการเมืองหลังจากถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คงต้องติดตามว่าจะมีความเคลื่อนไหว เกิดขึ้นหรือไม่ แต่น้ำหนักหลักๆ ยังเป็นเรื่องปัจจัยภายนอกมากกว่า
ทั้งนี้ คาดว่าในสัปดาห์หน้าดัชนีจะค่อยๆ ปรับขึ้น อาจมีจังหวะย่อตัว แนวต้าน 1,075 จุด แนวรับ 1,045-1,050 จุด โดยต้องติดตามผลการเลือกตั้งกรีซในสุดสัปดาห์นี้ว่าตลาดต่างประเทศตอบรับอย่างไร แต่แนะนำให้รอจังหวะย่อ ก่อนเข้าใหม่จะ ปลอดภัยกว่า
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,073.00 จุด เพิ่มขึ้น 33.88 จุด, +3.26%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 272,857 1,089,976 Total Futures 271,184 1,083,496 SET50 Index 127,396 208,220 Sector Index - - Single Stock 134,947 839,793 Precious Metal 8,362 21,038 -GF10 7,470 16,080 -GF50 892 4,958 Currency 351 13,958 Energy 128 487 Interest Rate - - Total Options 1,673 6,480 Call 771 2,751 Put 902 3,729 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -23,189 +11,302 +11,887 Options -139 -38 +177