"การจัดโรดโชว์ SET Thai Corporate Day ภายในประเทศครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นปี 2558 อย่างประสบความสำเร็จ โดยมีผู้ลงทุนสถาบันเข้าร่วมงานจำนวน 220 ราย ซึ่งมีผู้ลงทุนต่างประเทศ 68 ราย ขณะที่มี 50 กว่าบริษัทจดทะเบียนไทยร่วมแสดงข้อมูลในครั้งนี้ โดยเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ การลงทุน และสาขาใน GMS และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด คิดเป็น 26% ของตลาดรวม ทั้งนี้ มีจำนวนการประชุมกับผู้จัดการกองทุนรวม 925 ครั้ง จึงเชื่อว่าการจัดงานเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนในครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและตอกย้ำการที่ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนใน GMS อย่างครบวงจร เชื่อมโยงโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ บริการและข้อมูลเพื่อการลงทุนในภูมิภาคนี้"
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มปรับฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาครัฐมีความคืบหน้าในการดำเนินนโยบายหลายด้าน ทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค การอนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยมีความพร้อมที่จะเติบโตต่อเนื่องในปี 2558 สะท้อนจากเสถียรภาพด้านเงินเฟ้อ ปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และหนี้สาธารณะในระดับต่ำ นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังมีแผนงานที่พร้อมรองรับการเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไปสู่กลุ่มประเทศ GMS ผ่านโครงการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (cross border trade) การเชื่อมโยงระบบคมนาคม และการเชื่อมโยงระบบสื่อสารโทรคมนาคมรองรับการก้าวเข้าสู่ Digital Economy รวมถึงการเชื่อมโยงทางการเงินและตลาดทุน ดังเห็นได้จากการระดมทุนของประเทศลาวผ่านตลาดทุนไทยในช่วงที่ผ่านมา
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น 2.5% ภายหลังจากปรับลดลงแรงในช่วงท้ายปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าผู้ลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศ ยังคงมีความความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทย และการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการฟื้นตัวของการบริโภค การส่งออก และการท่องเที่ยว บนฐานที่ต่ำในปีที่ผ่านมา และราคาน้ำมันที่ต่ำลงก็ทำให้ประชาชนมีเงินเหลือจับจ่ายได้มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนั้น ค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ อัตราเงินเฟ้อต่ำ และ อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มต่ำต่อไป ก็มีส่วนทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง ดังนั้น การจัดงานครั้งนี้เป็นโอกาสดีในการให้ข้อมูลกับผู้ลงทุน สำหรับผู้ลงทุนต่างประเทศที่เดินทางเข้าร่วมงานมาจากทั้งภูมิภาคนี้ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเลเซีย และจากยุโรปและอเมริกา โดยผู้ลงทุนเห็นว่าประเทศไทยยังคงมีความน่าสนใจในการลงทุน โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีศักยภาพและมีโอกาสขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังมีความสนใจในบริษัทจดทะเบียนที่ลงทุนและดำเนินธุรกิจใน GMS เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีแหล่งทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์