บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"เก็งกำไรช่วงสั้น"หุ้นบมจ.การบินไทย(THAI) รัฐฯ เห็นชอบแผนพลิกฟื้นกิจการ THAI เพื่อให้กลับมาสร้างกำไรยั่งยืน แม้เชื่อว่ากว่านโยบายจะส่งผลบวกชัดต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี แต่ด้วย Sentiment เชิงบวกที่ดีขึ้นต่อกำไรระยะยาว กอปรกับราคาหุ้นยังต่ำกว่า Book Value
วานนี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(ซูเปอร์บอร์ด)มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูผลประกอบการ THAI โดยให้ปรับกลยุทธ์ 5 ประเด็นหลัก คือ 1) ให้ปรับลดเส้นทางบินที่มีผลขาดทุนต่อเนื่อง และจะพิจารณาการเปิดอีกครั้งทุกๆ 6 เดือน 2) ปรับแผนการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 3) ขายทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้งาน อาทิ เครื่องบินที่จอดอยู่ 22 ลำ ขณะที่ให้ลดงบลงทุนแต่ละปีลง รวมถึงวางแผนลงทุนให้มีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าลดฝูงบินเหลือ 6 รุ่น 8 แบบ จากปัจจุบันที่มี 9 รุ่น 11 แบบ 4) ปรับลดจำนวนบุคลากรจาก 2.5 หมื่นคนเหลือ 2.0 หมื่นคน และ 5) พิจารณาขายหรือปรับปรุงธุรกิจรองที่ขาดทุน
แผนทั้งหมดถือเป็นประเด็นบวกกำไรต่อ THAI ในระยะยาว แม้สิ่งที่คาดจะช่วยกำไรระยะสั้น THAI ทันที คือ การปรับลดความถี่เส้นทางที่ขาดทุน(ลดขาดทุน)รวมถึงการทำตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น(เพิ่มรายได้) อย่างไรก็ตาม ผลบวกช่วงสั้นคาดต้องถูกหักล้างจากรายจ่ายระยะสั้นที่จะเกิดขึ้นจากการปรับใช้กลยุทธ์ที่เหลือ อาทิ การเร่งขายเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งาน รวมถึงขายธุรกิจรองที่มีผลขาดทุน
แม้ว่าอาจส่งผลให้ต้องมีตั้งสำรองด้อยค่าในกรณี THAI ขายได้ในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ก่อนจะได้ผลบวกในระยะยาว เช่น ประเภทฝูงบินที่ลดลง จะช่วยเพิ่มให้เกิดความประหยัดต่อขนาดรายจ่ายขึ้น อาทิ ค่าซ่อมแซ่ม (10.0% ของต้นทุน) รวมไปถึงขาดทุนจากธุรกิจรองที่ลดลง
ขณะที่การลดจำนวนพนักงาน ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะต้องมีการทยอยเปิดโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ซึ่งนำมาสู่ค่าใช้จ่ายชดเชยที่ THAI ต้องจ่าย ก่อนที่ได้ประโยชน์รายจ่ายพนักงาน(17% ของต้นทุน)ที่คาดประหยัดจากปัจจุบันอย่างน้อย 20%
ทั้งนี้ ด้วยรายจ่ายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะสั้น ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยอาจต้องทบทวนปรับลดประมาณการปี 58-59 ภายหลังทราบรายละเอียดแผนที่ชัดเจนขึ้นจากบริษัท แต่เชื่อว่าหากการปรับใช้แผนสำเร็จ จะช่วยให้ THAI กลับมาสร้างกำไรต่อเนื่องหลังจากนั้น