นางกิตติ์ยาใจ ตรีเอกวิจิตร ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MPG กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจไปสู่รีเทลชอปเกี่ยวกับความงามและเครื่องสำอาง ภายใต้แบรนด์ดังกล่าว หลังได้ศึกษาแผนการทำธุรกิจใหม่ๆแล้ว พบว่าธุรกิจความงามและเครื่องสำอาง เป็นธุรกิจที่มีการพัฒนาทั้งด้านวัตถุดิบ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการผลิตอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ตลาดยังมีอยู่มาก และมีการเติบโตสูงขึ้นทุกปี
สำหรับรีเทลชอปของบริษัทจะรวบรวมสินค้าแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ โดยจะเน้นจากประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรป โดยจะใช้ศูนย์การค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นที่ตั้งร้านสตาร์ดัส คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท โดยสาขาแรกของสตาร์ดัส จะเปิดที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตในช่วงต้นเดือน ก.พ. และจะขยายให้ครบ 10 สาขาภายในปีนี้
ขณะที่นายปิยวรรพ์ทา ตรีเอนกวนิศ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ของ MPG กล่าวว่า สำหรับธุรกิจไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีภายใต้แบรนด์กิซแมน (GIZMAN) มีแผนจะเปิดและปรับพื้นที่ของแมงป่องสาขาปัจจุบันจำนวนหนึ่งให้เป็น GIZMAN รวม 15 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย
"ธุรกิจเดิมของแมงป่องก็ยังไม่ทิ้งเพราะมีฐานลูกค้าเดิมที่มีกำลังซื้ออยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูกค้าเดิมของแมงป่องส่วนใหญ่เป็นนักสะสม เราก็จะรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ ขณะเดียวกันก็ขยายฐานลูกค้าใหม่โดยเปิดสาขาสตาร์ดัส สินค้าที่นำมาจำหน่ายจะตรงใจคนรุ่นใหม่ เพื่อให้บริษัทเติบโตไปอีก อีกทั้งแบรนด์กิซแมนก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนชอบเทคโนโลยี ก็จะเป็นธุรกิจที่เข้ามาเสริม"นางกิตติ์ยาใจ กล่าว
ทั้งนี้ ร้านสตาร์ดัสจะมีเครื่องสำอางวางจำหน่ายราว 100 แบรนด์ มีสินค้า 10,000 SKU โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งกลุ่มตลาดระดับล่าวและระดับบน โดยสาขาแรกที่ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตมีขนาดพื้นที่ราว 200 ตร.ม. ส่วนแบรนด์กิซแมน สินค้าหลักเป็นพวกลำโพง หูฟัง เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ หรือจักรยาน ซึ่งปีนี้จักรยานกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก บริษัทก็มีแนวคิดที่จะเปิดร้านขายจักรยานด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่หารือกันอยู่
นางกิตติ์ยาใจ กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 58 ราว 950 ล้านบาท เติบโตจากปี 57 ที่ตั้งเป้ารายได้กว่า 500 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ปีนี้จะมาจากธุรกิจร้านเครื่องสำอางแบรนด์สตาร์ดัส 50% หรือกว่า 500 ล้านบาท ส่วนอีก 50% มาจากร้านแบรนด์กิซแมนและร้านแมงป่อง หรือแบ่งเป็นกิซแมน 150 ล้านบาท และแมงป่อง 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV โดยอาจจะไปพร้อมกับพันธมิตรทางธุรกิจ หรือร่วมทุนกับพันธมิตร เพื่อเปิดช่องทางการขายในประเทศต่าง ๆ เริ่มจากธุรกิจเครื่องสำอางที่เน้นสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ที่บริษัทผลิตเอง ไม่ใช่การนำเข้าจากต่างประเทศ แต่จะจำหน่ายในร้านสาขาของสตาร์ดัส คาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าเฮาส์แบรนด์ได้ไตรมาส 3/58 และจะเริ่มเห็นการเปิดสาขาในต่างประเทศราวไตรมาส 4/58 ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเจรจากับพันธมิตรที่จะร่วมมือด้วย