ในปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายสาขาใหม่ 5 แห่งในต่างจังหวัดและยกระดับศูนย์บริการให้เป็นสาขาเต็มรูปแบบอีก 8 แห่ง ในนครสวรรค์, นครราชสีมา, ชลบุรี, อุบลราชธานี, เพชรบุรี, สงขลา ,ขอนแก่น และลพบุรี ซึ่งจะส่งผลให้ปีนี้บริษัทมีสาขาเพิ่มเป็น 19 แห่ง จากปี 57 ที่มี 6 แห่ง ดังนั้น บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปีนี้จะอยู่ที่ 80% และรายได้จากต่างจังหวัด 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 90:10 และใน 3 ปี(ปี 60) เมื่อมีสาขาคลอบคลุมทุกจังหวัดจะทำให้สัดส่วนรายได้อยู่ในระดับใกล้เคียงกันที่ 50%
นอกจากนี้ บริษัทยังจะขยายช่องทางการขายใหม่ๆ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้าใหม่เพื่อเพิ่มรายได้ โดยบริษัทจะเริ่มวางขายเครื่องกรองน้ำของบริษัทจำนวน 4 รุ่นในโฮมโปร 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑลช่วงต้นเดือนก.พ. โดยจะเริ่มเห็นรายได้เข้ามาอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้จากการขายผ่านโฮมโปรราว 100 ล้านบาท และยังเตรียมที่จะรุกตลาดตามโมเดิร์นเทรด เช่น ไทยวัสดุ บิ๊กซี เป็นต้น
ขณะเดียวกัน บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในปีนี้ภายหลังจากที่โรงงานแห่งใหม่จะเริ่มเดินเครื่องได้ในช่วงเดือนก.พ.58 ส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวม 3 หมื่นเครื่อง/เดือน ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายจะใช้กำลังการผลิตเพิ่มเฉลี่ยขึ้นแตะ 1.8 หมื่นเครื่อง/เดือน จากปีก่อนที่ใช้กำลังการผลิตเพียง 1.2 หมื่นเครื่อง/เดือน นายวีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทได้เริ่มวางจำหน่ายเครื่องปรับอากาศแล้ว และยังเตรียมเจรจากับร้านขายเครื่องปรับอากาศในกรุงเทพฯกว่า 3,000 แห่ง เพื่อที่จะให้เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศให้แก่บริษัทด้วย จากปัจจุบันที่มีการจำหน่ายผ่าน Telecom Sale เพียงอย่างเดียว