กรณีที่มีผู้ยื่นประกวดราคาน้อยรายเพราะมองว่าราคากลางที่กำหนดล่าสุดต่ำเกินไปนั้น นางปราณี กล่าวว่า ราคากลางที่กำหนดคันละ 3.65 ล้านบาทเป็นราคาที่สามารถชี้แจงได้ เพราะได้สอบถามราคารถที่มีสเป็กใกล้เคียงกับที่ ขสมก.เปิดประกวดราคา ทั้งจากโรงงานในยุโรปและในเอเชีย ซึ่งรวมอัตราภาษีนำเข้า 10% ภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าดำเนินการ 2% แล้ว ตามผลศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) จึงเห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว
"ที่มีการยื่นซองกันน้อย ก็ตอบไม่ได้ เพราะบางคนก็ติงว่าราคามันต่ำ บางคนก็ร้องว่าราคาต่ำเกินไป แต่จริงแล้วก็เป็นราคาที่เราหามาตามหลักการ และก็ใช้หลักเกณฑ์ในการคำนวณ เพราะราคานี้เราสอบถามจากผู้ผลิตโดยตรงทั้งยุโรปและเอเชีย ...จะถูกหรือแพง เราก็บอกไม่ได้ เรามีที่มาที่สามารถชี้แจงได้"นางปราณี กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ส่วนการจัดหารถเมล์เอ็นจีวีที่เหลืออีกจำนวน 2,694 คัน ขสมก.คาดว่าจะเปิดประกวดราคารอบถัดไปได้ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.58 และคาดว่าจะรับมอบภายในปี 59 โดยจะต้องมีออกประกาศประกวดราคา ซึ่งจะมีกำหนดราคากลางด้วยเช่นกัน
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ บมจ.ช.ทวี ดอลลาเชียน(CHO) ตัดสินใจไม่ยื่นซองประมูลราคารถเมล์เอ็นจีวี เพราะเห็นว่าราคาที่ ขสมก.ตั้งไว้คันละ 3.65 ล้านบาท ไม่สามารถทำได้ โดยราคาที่ CHO เห็นว่าเหมาะสอยู่ที่คันละ 4.5 ล้านบาท