นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ NCH เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทได้เข้าซื้อสินทรัพย์ที่เป็นโครงการแนวราบจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(บสท.)จำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการราว 700-800 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการเก่าที่ถูกทิ้งร้าง เพื่อนำมาพัฒนาติ่อและขาย คาดว่าปลายปีนี้จะเริ่มโอนได้บางส่วนราว 50% ที่เหลือน่าจะทยอยโอนในปี 59 "โครงการเก่าที่ถูกทิ้งร้างที่เราไปซื้อมาทุกอย่างมีพร้อมแล้ว ถนน สาธารณูโภคพร้อมแล้ว เป็นบ้านเดี่ยวราว 100 กว่ายูนิต แถวราชพฤกษ์ ราคาขายยูนิตละ 6-7 ล้านบาทขึ้นไป เป็นทำเลที่ดี คิดว่าน่าจะขายได้ไม่อยาก คาดเปิดขายได้ในอีก 2-3 เดือน"นายสมเชาว์ กล่าว
นายสมเชาว์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมที่ 2.2 พันล้านบาท สูงกว่าปี 57 ที่คาดว่าจะทำได้ตามเป้า 1.8 พันล้านบาท โดยการรับรู้รายได้จะมาจากโครงการคอนโดมิเนียมราว 20% และโครงการแนวราบ 70-80% ซึ่งปัจจุบันมี backlog ราว 1,800-1,900 ล้านบาทที่จะรับรู้รายได้ในปีนี้ 70-80% ขณะที่ตั้งเป้ายอดขายราว 3.3 พันล้านบาท
"รายได้ปีนี้น่าจะดีมากเพราะคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างอยู่จะเสร็จในปีนี้และคาดว่าจะโอนได้ในปีนี้ คือที่พัทยา เพราะฉะนั้นรายได้ก็จะมีส่วนของคอนโดฯบวกเข้ามานอกเหนือจากที่เป็นแนวราบ แนวราบเรายังมีการขายโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่คอนโดฯที่ขายมาเกือบ 2 ปีแล้ว ยังไม่ได้โอนเลยคาดว่าจะโอนได้ในปีนี้ รายได้จากคอนโดฯก็จะเป็นส่วนเสริมขึ้นมาจากแนวราบ จึงตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ปีนี้ที่ 2.2 พันล้านบาท และปี 58 กำไรจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพราะรายได้เพิ่มขึ้น"นายสมเชาว์ กล่าว
นายสมเชาว์ กล่าวอีกว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ยังไม่น่ากังวลหากสถานการณ์เศรษฐกิจยังดีต่อเนื่อง โดยปีนี้บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 2-3 พันล้านบาท เป็นแนวราบทั้งหมด ขณะนี้มีที่ดินรองรับไว้แล้ว 2 โครงการ ส่วนอีก 1 โครงการซื้อมาจาก บสท.ขณะที่บริษัทยังมีที่ดินในมืออีกราว 700-800 ไร่สามารถรองรับการพัฒนาโครงการได้อีกคิดเป็นมูลค่าร่วมหมื่นล้านบาท ซี่งจะทยอยดำเนินการในอนาคต
ส่วนการซื้อที่ดินเพิ่มเติมนั้นจะเป็นลักษณะการทยอยซื้อตามพื้นที่ที่น่าสนใจและมีศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้ยังมีกลุ่มนักธุรกิจในประเทศเข้ามาเจรจาเพื่อหาความร่วมมือในการพัฒนาที่ดินที่มีอยู่จำนวนมาก แต่ยังไม่สรุปว่าจะร่วมกันพัฒนาในรูปแบบใด
"ปีนี้จะได้ข้อสรุปหรือไม่ยังบอกอยาก เพราะยังไม่ได้คุยกันมากนัก อาจจะให้เขาเช่าที่ดินเราก็ได้"นายสมเชาว์ กล่าว
นอกจากนั้น ยังผู้สนใจทั้งบริษัทในและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ติดต่อเข้ามาเจรจาเพื่อซื้อหุ้นหรือร่วมลงทุนกับบริษัท แต่ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา และยังไม่มีข้อสรุปใดๆ เพราะผู้ถือหุ้นก็ไม่ได้ต้องการจะขายหุ้นออกไป
"มีผู้ประกอบการรายหลายในประเทศเข้ามาคุยกับบริษัทต่อเนื่อง เพราะเห็นเราทำผลประกอบการดีก็สนใจอยากจะเข้ามาร่วมถือหุ้น อยากจะมาร่วมบริหารเพราะมีที่ดินที่จะมาร่วมพัฒนาได้ แทนที่เขาจะมาเริ่มตั้งทีมใหม่ก็สามารถที่จะเริ่มได้ทันที เป็นผู้ประกอบการรายกลางทั้งในและนอกตลาด"นายสมเชาว์ กล่าว