"การเติบโตในปีนี้จะเติบโตในทุกๆกอง โดย Mutual Fund ยังคงเป็นตัวที่เติบโตสูงที่สุด และจะยังเน้นในส่วน Equity รวมไปถึงการบาลานซ์การลงทุนในตราสารหนี้อื่นๆทั่งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ก็ยังมีกอง REIT เข้ามาอีก ส่วนกอง Infrastructure Fund ยังต้องศึกษารายละเอียดในรูปแบบให้มากกว่านี้อีกสักนิดก่อน เพราะยังมีความคลุมเครืออยู่"นายวศิน กล่าว
บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจจัดการกองทุน ซึ่งในปี 57 ระดับ AUM ของบริษัทเติบโต 14% จากปี 56 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 21% อีกทั้งยังรักษาการครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ทั้งในธุรกิจกองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมถึงกองทุน LTF/RMF กองทุนตลาดเงิน และกองทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะกองทุนต่างประเทศ(FIF) นั้นบริษัทครองส่วนแบ่งตลาดถึง 44% หรือคิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 9.3 หมื่นล้านบาท โดยบริการกองทุนต่างประเทศถ็ง 18 กองทุนครอบคลุมตลาดทั่วโลกทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย
นายวศิน กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดการณ์ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index)จะขึ้นไปอยู่ที่ 1,700 จุดได้ในช่วงปลายปี ที่ระดับ P/E 16 เท่า โดยปัจจุบัน SET Index อยู่ที่ประมาณ 1,600 จุด ระดับ P/E 15.3 เท่า อีกทั้งคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในประเทศในปีนี้จะเติบโตราว 14.5%
"สิ่งที่ต้องจับตาที่จะมีผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนคงเป็นเรื่องความผันผวนของราคาน้ำมัน เพราะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลง ซึ่งอาจจะทำให้การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนโดยรวมในปีนี้อาจปรับตัวลดลงไป โดยหุ่นกลุ่มพลังงานมีสัดส่วน 17% ในตลาดหุ้นไทย"นายวศิน กล่าว
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ 4% โดยมีปัจจัยหนุนมาจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างมาก รวมถึงมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการเบิกจ่ายงบประมาณ จะเสริมความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาคเอกชนได้
ด้านมุมมองการลงทุนต่อเศรษฐกิจโลก มองว่าได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงการที่ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศยุโรปและญี่ปุ่นยังคงอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะเติบโตได้ถึง 3% ในขณะที่มาตรการทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่แตกต่างจากธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตามองคือปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในยูเครนและกรีซ ที่อาจทำให้ภาคการลงทุนทั่วโลกยังมีความผันผวนมากกว่าปีที่ผ่านมา และกลยุทธ์การลงทุนของบลจ.กสิกรไทย ยังเน้นลงทุนในประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีจากนโยบายของภาครัฐและธนาคารกลาง