ทั้งนี้ กลุ่ม MBK มองว่าปีนี้เศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น แม้จะยังไม่เป็นปกติก็ตาม แต่เริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาของนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงห่วงใยเรื่องของกำลังซื้อผู้บริโภคในระดับรากหญ้า เนื่องจากสินค้าเกษตรยังมีราคาตกต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของกลุ่มดังกล่าว ขณะเดียวกันยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อกำลังซื้อและการท่องเที่ยวโดยตรง
"ปีนี้เรามองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจได้เริ่มกลับมาฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างไรเราก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรที่อาจจะส่งกับกำลังซื้อ รวมไปถึงเศรษฐกิจโลกที่มีผลโดยตรงต่อกำลังซื้อปละการท่องเที่ยว สำหรับธุรกิจการค้าเราไม่มีแผนขยายไปยังต่างจังหวัด แต่ธุรกิจโรงแรมเราสนใจขยายไปยังจังหวัดที่มีกลุ่มนั่งท่องเที่ยว ส่วนตามแนวรถไฟฟ้าเรามองว่าเหมาะกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากกว่า"นายสุเวทย์ กล่าว
ด้านนายศักดิ์ชัย เก่งกิจโกศล กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า MBK เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 57 จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าเริ่มดีขึ้น นักท่องเที่ยวในแถบประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เริ่มมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะดีขึ้นมาแล้วแต่ก็ยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับปกติ
สำหรับปัจจัยที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากคนไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น สินค้าเกษตรราคาต่ำ ทำให้กำลังซื้อน้อย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาประชาชนไม่กล้าใช้เงิน การตัดสินใจไม่คล่องตัว นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงยังไม่กลับมา
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมองว่าธุรกิจค้าปลีกในปี 58 จะเติบโตประมาณ 10% เนื่องจาก ราคาน้ำมันลดลง ราคาค่าไฟฟ้าลด ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐต้องกระตุ้นความเชื่อมันให้กับประชาชน โดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ เช่น รถไฟฟ้า เรื่องน้ำ ให้เกิดความชัดเจน