SET พุ่งเป้าขยายพอร์ตนักลงทุนสถาบันในประเทศ เน้น Equity Fund

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 2, 2015 13:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ในปี 58 ตลท.จะเน้นการเพิ่มสัดส่วนของนักลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 9-10% โดยจะเน้น Equity Fund เป็นหลัก เพราะที่ผ่านมา Equity Fund จะชนะการลงทุนเสมอ และเพื่อต้องการสร้างความสมดุลของสัดส่วนนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย

ทั้งนี้ ในปี 57 ตลท.มีสัดส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศอยู่ที่ 8.7%, สัดส่วนนักลงทุนรายย่อยมากที่สุดราว 60%, สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติ 20-25% และสัดส่วน Prop Trade ที่ 8% โดย ตลท.ตั้งเป้าปี 62 จะพยายามทำให้สัดส่วนนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันเป็น 50:50 เพื่อสร้างความสมดุลควบคู่ไปกับการขยายฐานผู้ลงทุน

"หลาย บลจ.เริ่มคิดเรื่อง Equity Fund มากขึ้น ซึ่งเราก็ได้มีการทำร่วมกับ บลจ.เราจะขยายลูกข่าย บลจ.โดยมีเป้าหมายปี ค.ศ.2020 จะทำให้ตลาดฯมีสัดส่วนผู้ลงทุนรายย่อย 50% และผู้ลงทุนรายสถาบัน 50%"นางเกศรา กล่าว

กรรมการและผู้จัดการ กล่าวว่า การโรดโชว์ต่างประเทศในปีนี้ ตลท.จะใช้ธีมว่า"Trading Hub"ตอกย้ำการเป็นจุดเชื่อมต่อของภูมิภาคและยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ในลักษณะ Series ซึ่งจะมีการจัดงานสัมมนาออกมาเป็นช่วง ๆ โดยจะเชิญรัฐมนตรีจากกระทรวงต่าง ๆ มาพูดและเปิดเผยถึงแผนงานและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศไทย โดยเริ่มจากวันที่ 25 ก.พ.58 ที่จะมีการเชิญ รมว.พลังงาน มาพูดเพื่อสร้างความเข้าใจและมองแนวโน้มของพลังงานที่มองผลกระทบต่อประเทศไทย

"หลังจากนี้ในเดือน มี.ค.และเดือนต่อๆ ไป ก็จะมีการเชิญทางกระทรวงคมนาคม, คลัง, พาณิชย์เป็น Series ต่อไป มาพูดเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยและการลงทุนไนโครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยตลท.จะเริ่มต้นจากการสร้างความเชื่อมันและการรับรู้ของนักลงทุนในประเทศก่อน"นางเกศรา กล่าว

ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและการเงิน ตลท.เปิดเผยว่า Fund Flow ในปีนี้ 58 คงจะไม่แตกต่างจากปี 57 เนื่องจากเศรษฐกิจของยุโรปก็ยังไม่ฟื้นตัวดี ทางจีนก็มีปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ มีเพียงเศรษฐกิจของสหรัฐฯเท่านั้นที่ดูดีกว่าเพื่อน ซึ่งปีนี้มองว่าจะต้องคอยระวังเรื่องเศรษฐกิจจากภายนอกประเทศให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของเงินทุนไหลออก(Outflow) ตลาดฯคงจะไม่ได้รับผลกระทบมากเหมือน 2 ปีที่ผ่านมา โดยมองว่า Flow ระยะสั้นอาจจะไหลออกบ้างแต่ก็ไม่มาก เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯยังดี และทุกอย่างดูดีด้วยซ้ำ ส่วน Flow ระยะยาว มองว่ายากที่จะไหลออกไป แต่ก็ต้องขึ้นกับดัชนีใหญ่ ๆ ด้วย อย่าง ดัชนี MSCI ซึ่งปีนี้มองว่าเม็ดเงินลงทุนน่าจะไหลกลับเข้ามาในไทยได้

"2 ปีที่ผ่านมา เรา Outflow ในปี 56 ไป 5 billion ส่วนปี 57 ราว 2 billion ปีนี้น่าจะน้อยลงอีก หรือเงินน่าจะกลับมาไทยได้"นายภากร กล่าว

ส่วนนายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ(mai) เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ในตลาด mai ประมาณ 20 บริษัท โดยคาดว่าจะเข้าเทรดในช่วงครึ่งแรกปีนี้(H1/58)ประมาณ 4 บริษัท โดยอาจจะเริ่มเห็นเข้ามาเทรดในช่วงเดือน 3-4 เป็นต้นไป และในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/58)ก็คงจะเข้ามาเทรด 16 บริษัท

"ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯเข้าตลาดฯน้อย เพราะต่างก็ต้องการรอดูงบปี 57 ก่อน ดังนั้นกว่าจะเข้ามาเทรดก็ราวเดือน 3 เดือน 4 เป็นต้นไป ส่วนใหญ่ก็จะมาเทรดกันในครึ่งปีหลัง"ผู้จัดการตลาด mai กล่าว

ผู้จัดการตลาด mai กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai ที่เข้าหลักเกณฑ์และจะย้ายไปทำการซื้อขายในตลาด SET ประมาณ 10 บริษัท โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามี บมจ.โมโน เทคโนโลยี(MONO)ย้ายเข้า SET ไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ม.ค.58 และตัวถัดไป คือ บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น(ILINK) ส่วนกำหนดเวลาเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ