ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 396,924 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 3, 2015 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (26 – 30 มกราคม 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 396,924 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 79,385 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 2.5% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 59% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 233,786 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 114,400 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 6,947 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A (อายุ 4.4 ปี) LB176A (อายุ 2.4 ปี) และ LB21DA (อายุ 6.9 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 29,527 ล้านบาท 23,845 ล้านบาท และ 17,226 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รุ่น BECL163B (A) มูลค่าการซื้อขาย 1,087 ล้านบาท และรุ่น BECL163A (A) มูลค่าการซื้อขาย 495 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT155A (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 494 ล้านบาท

ราคา (Price) ของพันธบัตรรัฐบาลอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หรือผู้ซื้อจะได้ผลตอบแทน (Yield) เพิ่มขึ้นประมาณ 0.01% - 0.06% หากเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการขายทำกำไรของนักลงทุนบางส่วน ด้านผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา โดยมองว่านโยบายการเงินปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมและผ่อนปรนเพียงพอต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ฯ (FOMC) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25% ต่อไป และตลาดคาดว่า Fed จะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2558 เป็นต้นไป โดยผลการประชุมดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ไทยมากนัก

การประมูลพันธบัตรระยะสั้น (อายุน้อยกว่า 1 ปี) ทั้งตั๋วเงินคลังและพันธบัตร ธปท. ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยความต้องการประมูลในจำนวนที่สูงกว่าปริมาณพันธบัตรที่ออกขาย (ค่า Bid Coverage Ratio: BCR) ประมาณ 1.21-1.86 เท่า

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (26 – 30 ม.ค. 58) เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติได้ไหลออกจากตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุน้อยกว่า 1 ปี) ประมาณ 3,483 ล้านบาท และตราสารหนี้ระยะยาว (อายุคงเหลือ > 1 ปี) ประมาณ 7,011 ล้านบาท เงินที่ไหลออกจากตราสารหนี้ ส่งผลให้ยอดถือครองตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ ลดลงจาก 677,151 ล้านบาท เป็น 666,657 ล้านบาทในสัปดาห์นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ