ส่วนที่เหลืออีก 9 เมกะวัตต์ จะมาจากโรงไฟฟ้าชีวมวล 6 แห่ง แห่งละ 1.5 เมกะวัตต์ ซึ่งจะใช้หญ้าเนเปียร์เป็นเชื้อเพลิง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 900 ล้านบาท โดยแหล่งเงินลงทุนจะมาจากส่วนของบริษัท 300 ล้านบาท และที่เหลืออีก 600 ล้านบาทจากเงินกู้ลงทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องการรอความชัดเจนจากนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับวิธีการรับซื้อค่าไฟฟ้าในรูปแบบใหม่ คาดว่าจะได้ความชัดเจนในสิ้นเดือนก.พ.นี้. ซึ่งบริษัทก็พร้อมจะเดินหน้าทันทีเพราะได้เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
นายชัชพล กล่าวอีกว่า ในปี 59-60 บริษัทมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลปีละ 10 โรง โรงละ 1.5 เมกะวัตต์ รวมเงินลงทุน1,500 ล้านบาท โดยจะใช้เงินทุนของบริษัท 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เงินกู้ คาดว่าจะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าแห่งละ 40 ล้านบาท/ปี หรือรวม 400 ล้านบาท/ปี
ทั้งนี้ จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้คาดว่าในปี 60 รายได้ของบริษัทจะเพิ่มมากกว่า 2 พันล้านบาทจากปี 57 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1.5 พันล้านบาท และ 2 พันล้านบาทในปีนี้ โดยในปีดังกล่าวจะมีสัดส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าและธุรกิจเคมี 60% จาก 40% ในปีนี้ ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจเทรดดิ้ง ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะกลับมาโตที่ระดับเดิมที่ 12-13% ในปี 60 จากปีนี้คาดอยู่ที่ระดับ 10%