นายชัยพร น้อมพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงแต่ไม่แรงคาดว่าจะอยู่ในกรอบราว 1% เนื่องจากอาจไดั้รับแรงขายจากหุ้นในกลุ่มน้ำมันหลังจากที่ได้ขึ้นไปแรงเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ราคาน้ำมัน WTI ได้ปรับตัวกว่า 8% ดังนั้นคงจะมี impact ต่อหุ้นน้ำมันและหุ้นในกลุ่ม PTT พอควรไม่มากก็น้อย โดยตลาดฯวันนี้อาจจะโดนหุ้นในกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมีดึงลงได้
อย่างไรก็ดี การที่จีนได้มีการลดการตั้งสำรองฯของธนาคารพาณิชย์ในจีนทำให้เป็นผลดีต่อแบงก์ในจีนที่จะมี room ในการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบเฉลี่ย 0.5%
พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610-1,615 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(4 ก.พ.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,673.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.62 จุด(+0.04%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,716.70 จุด ลดลง 11.04 จุด(-0.23%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,041.51 จุด ลดลง 8.52 จุด(-0.42%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 89.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 368.50 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 77.08 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 2.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.64 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 2.66 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.77 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 ก.พ.58) 1,599.81 จุด ลดลง 2.73 จุด(-0.17%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,351.33 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ก.พ.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 ก.พ.58) ปิดที่ 48.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 4.60 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 ก.พ.58)ที่ 8.18 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.62/63 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 32.55-32.65 ยังไม่มีปัจจัยใหม่
- "ศุภวุฒิ"ชี้ไทยเสี่ยงเผชิญปัญหาเงินเฟ้อติดลบช่วงต้นปีนี้ กดดันแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย "เครดิตสวิสกรุ๊ป"ระบุไทยเข้าข่ายเงินฝืดทางเทคนิค, "ไอเอ็มเอฟ"หั่นจีดีพีไทยเหลือ 3.5% วิตกเสถียรภาพทางการเมือง การส่งออก และการบริโภคชะลอตัว
- จีนย้ำความสำคัญไทย-จีน เผย ปี 57 มูลค่าการค้ารวมกว่า 2 ล้านล้านบาท แม้ไทยเกิดปัญหาเศรษฐกิจ ระบุ 5 ปี มีแผนลงทุนต่างประเทศ 5 แสนล้านดอลลาร์ ด้านภาคเอกชนหวังความร่วมมือ 2 ประเทศ ดันจีดีพีพุ่ง 6% แนะดึงความพร้อมด้านเงินทุน เทคโนโลยี ชี้อนาคตจีนเน้นอุตสาหกรรมหนัก เปิดทางเอสเอ็มอีเจาะตลาด
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงการประชุมหน่วยงานเศรษฐกิจเพื่อติดตามนโยบายและการดำเนินงาน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2558 ว่า ได้นำตัวเลขเศรษฐกิจมาพิจารณา ซึ่งเห็นว่าติดลบมากคือเรื่องท่องเที่ยวและการค้าขาย โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจในปี 2558 จะดีขึ้น แต่การแก้ปัญหาต้องดูภาพรวม พยายามแก้ทุกภาคส่วน
- "พาณิชย์" เสนอนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยกระดับการส่งออกเป็นวาระแห่งชาติ ยันไม่ลดเป้าส่งออกปีนี้ 4% แม้หลายหน่วยงานลดแล้ว พร้อมเดินหน้าดันการค้าชายแดนไทย-เพื่อนบ้านปีนี้ให้ได้ 1.5 ล้านล้านบาท เผย "ฉัตรชัย" เตรียมถกห้างสัปดาห์หน้า ขอความร่วมมือลดต้นทุนให้ผู้ค้าอาหารในฟูดคอร์ตหลังประชาชนร้องเรียนราคาแพงเกินจริง
- นายวิรไท สันติประภพ หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เผยปัญหาอัตราเงินเฟ้อต่ำ และเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้หลายประเทศจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง สำหรับไทย ที่ประชุม กนง.ได้หยิบยกสถานการณ์ดังกล่าวมาหารือ และเห็นตรงกันว่า ต้องติดตามทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด
- "พสุ โลหารชุน" อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เผยปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรตามโครงการแปลงเครื่องจักรเป็นทุนของ ผู้ประกอบการอีก 8,000 เครื่อง เพิ่มขึ้น 15% คิดเป็นวงเงินจำนอง 375,000 ล้านบาท จากปี 2557 ที่มียอดจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร 14,182 เครื่อง โดยกรมจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการโรงงานต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น เพื่อนำกรรมสิทธิ์เครื่องจักรไปจำนองกับสถาบันการเงิน นำเงินทุนมาหมุนเวียนธุรกิจได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยเฉพาะปีนี้ ผู้ประกอบการจะมีการลงทุนในการขยายธุรกิจมากขึ้น ตามคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะขยายตัว 4%
*หุ้นเด่นวันนี้
- MINT(ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ)"ซื้อ"เป้า 41 บาท มีการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจที่ดีทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และทำเล คาดกำไรสุทธิปี 58 เติบโต 24% โดยมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและอาหาร ซึ่งเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรมตั้งแต่ 4Q57 แล้ว ส่วนอาหารคาดว่าจะเติบโตดีขึ้นใน 1Q58 ส่วนที่ประกาศลงทุนซื้อธุรกิจโรงแรมเพิ่มที่บราซิลและโปรตุเกสชื่อ Tivoli ในจำนวนห้องพัก 1,685 ห้อง เงินลงทุน 6.56 พันล้านบาท เงินลงทุนมาจากการกู้ยืมที่มีต้นทุนการเงิน ต่ำเพียง 3% ในเบื้องต้นคาดว่า 2 โรงแรมนี้จะสร้างผลกำไรให้ MINT เพิ่มขึ้นราว 5-6% (หลังหักดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นแล้ว)
- PACE(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 4 บาท คาดว่าตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นไปจะเริ่มกลับมามีกำไร เพราะมีการโอน 2 โครงการต่อเนื่องคือ มหานครและมหาสมุทร และปี 60 จะเริ่มโอนคอนโดใหม่ที่หลังสวน โดยชอบบริษัทในประเด็นการฟื้นตัวสูง และมีจุดขายสินค้าที่ล้ำสมัย ส่วนความเสี่ยงคือ การใช้เงินกู้สูงระหว่างที่ลงทุน
- PTT(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 398 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาด 4Q57F ขาดทุน 2.5 หมื่นล้านบาท
- CSS(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 10.18 บาท อานิสงส์ Digital Economy เสา 3G ขยายฐานธุรกิจพลังงาน
- ADVANC(โกลเบล็ก)ราคา Consensus สูงสุดที่ 309 บาท คาดกำไร 4Q57 เติบโตจากรายได้บริการด้าน Non-voice ที่เพิ่มขึ้นสูง รวมถึงรายได้จากการขายมือถือ iPhone6 , ได้ประโยชน์จากภาครัฐเร่งผลักดันประมูล 4G ในช่วงต้นปี 2558 (ม.ค.-ก.พ. 2558) และ Dividend yield ระดับสูงราว 5 – 6 %