นายสุภสิทธิ์ รักกสิกร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด ของ SIM กล่าวว่า บริษัทคาดว่ากำไรปีนี้เติบโตได้เพียง 5% เนื่องจากมีการแข่งขันสูงในด้านราคา แต่เชื่อว่าจะยังคงรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 7-8% ได้
ขณะที่รายได้รวมคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่ากำไร ตั้งเป้าในระดับ 1.5 หมื่นล้านบาท จาก 1.1 หมื่นล้านบาทในปี 57 มาจากยอดขายโทรศัพท์มือถือราว 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีแผนวางหน่ายสมาร์ทโฟน 25 รุ่น คาดว่าจะทำยอดขายทะลุ 5 ล้านเครื่อง จากปีก่อน 4.2 ล้านเครื่อง พร้อมกันนั้น บริษัทได้ปรับราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 2,900 บาท/เครื่อง จากเดิมอยู่ที่ 2,700 บาท/เครื่อง
รวมทั้ง บริษัทยังจะมีรายได้จากบริษัทลูกในส่วนธุรกิจคอนเท้นท์จำนวน 1,000 ล้านบาท และรายได้ส่วนอื่นๆ อีก 1,000 ล้านบาท
"เรามองรายได้น่าจะเติบโตได้ 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นเล็ก 5% จากปีก่อน โดยปัจจัยที่จะผลักดันให้รายได้เราเพิ่มขึ้น จะมาจากยอดขายโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน และมีการจับมือกับพาทเนอร์มากขึ้นด้วย"นายสุภสิทธิ์ กล่าว
นายสุภสิทธิ์ กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมตลาดโทรศัพท์มือถือในปีนี้จะยังเติบโตต่อเนื่อง ประเมินยอดขายมือถือรวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมอยู่ที่ 17-18 ล้านเครื่อง จาก 15 ล้านเครื่องในปี 57 เป็นผลจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ประกอบกับ รัฐบาลผลักดันนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยใหัประชาชนทั้งระดับกลางและระดับล่างมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น
บริษัทตั้งงบลงทุนรวมในปีนี้ไว้ที่ราว 430 ล้านบาท แบ่งเป็นงบด้านการตลาดราว 400 ล้านบาท และลงทุนปรับปรุงบริการหน้าร้าน บริการหลังการขาย และการทำแอพพลิเคชั่นเพื่อรองรับข้อมูลข่าวสาร ขณะที่มองโอกาสขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ได้ส่งโทรศัพท์มือถือไปจำหน่ายที่ลาว ,กัมพูชา และพม่าแล้ว โดยมียอดขายประมาณ 3-4 แสนเครื่อง/ปี หรือคิดเป็น 10% ของจำนวนเครื่องที่ขายทั้งหมดของกลุ่มบริษัท
สำหรับความคืบหน้าการนำบริษัทลูก บริษัท ไอ-สปอร์ต จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai)นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะสามารถยื่นแบบเสนอขายหุ้น(ไฟลิ่ง)และเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นได้ภายในไตรมาส 3-4 ปีนี้ โดยปัจจุบัน ไอ-สปอร์ต จำกัด มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 120 ล้านบาท แต่ก่อนเข้าจดทะเบียนอาจมีการปรับโครงสร้างอีกครั้งหนึ่ง