(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์รับราคาน้ำมันรีบาวด์-เงินไหลเข้ากลุ่ม TIP

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 6, 2015 09:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าดัชนีจะมีการแกว่งตัวไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ มีแนวโน้มจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,619 จุด จากปัจจัยหนุนราคาน้ำมันใตลาดโลกรีบาวด์กลับมาและมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 50 ดอลลาร์หสรัฐฯ/บาร์เรล อีกทั้งตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดนั้น ส่งผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่จะส่งผลเชิงบวกต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นกลุ่ม TIP จากการที่จีนลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ ทำให้สภาพคล่องของธนาคารสูงขึ้น ส่งผลต่อเม็ดเงินที่อาจไหลออกมาลงทุนนอกประเทศ ซึ่งตลาดหุ้นกลุ่ม TIP มีโอกาสได้รับอานิสงส์ในส่วนนี้ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่ดี ส่งผลให้เช้านี้ดัชนีตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ปรับตัวขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีและไต้หวันเคลื่อนไหวในแดนลบ

พร้อมให้แนวต้าน 1,619-1,620 จุด แนวรับ 1,590 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(5 ก.พ.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,884.88 จุด เพิ่มขึ้น 211.86 จุด(+1.20%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,765.10 จุด เพิ่มขึ้น 48.40 จุด(+1.03%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,062.52 จุด เพิ่มขึ้น 21.01 จุด(+1.03%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 191.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 77.71 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 16.44 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 9.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.90 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.10 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(5 ก.พ.58) 1,607.92 จุด เพิ่มขึ้น 8.11 จุด(+0.51%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 111.49 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.พ.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(5 ก.พ.58) ปิดที่ 50.48 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.03 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(5 ก.พ.58)ที่ 8.45 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.58/60 แข็งค่าตามภูมิภาค รอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงนโยบายการเงินในปี 2558 เมื่อวานนี้ว่าในปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 4% แม้จะเกิดภาวะเงินเฟ้อติดลบ แต่ยืนยันว่าไทยจะไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่ใช่ราคาน้ำมันยังขยายตัวเพิ่ม ราคาสินค้าไม่ได้ลดลง มีสินค้าหลายประเภทขอปรับราคาขึ้น และที่สำคัญการจ้างงานไม่ได้ลดลง
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน ม.ค.58 จากกลุ่มตัวอย่าง 2,239 คน พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ 80.4 ปรับตัวลดลงจากเดือน ธ.ค.57 ที่อยู่ 81.1 และยังเป็นการปรับลดลงในทุกรายการอีกครั้ง หลังจากเริ่มขยับขึ้นเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจยังชะลอตัวและไม่น่าไว้วางใจ
  • รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการเงินและรูปแบบการลงทุนภายใต้บันทึกความเข้าใจไทย-จีน เรื่องโครงการดำเนินงานก่อสร้างรถไฟทางคู่รางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทางรวม 873 กม. ว่า ทางรัฐบาลจีนได้เสนอรูปแบบการลงทุนในลักษณะของการกู้ร่วมกันผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน ในอัตราดอกเบี้ย 2-4% ระยะเวลาปลอดหนี้ 4 ปี และคืนทุนใน 20 ปี
  • "คลัง"เตรียมชง"ครม."อนุมัติจ่ายชดเชยความเสียหายจากการทำโครงการรัฐหรือ พีเอสเอ ให้ 3 แบงก์รัฐกว่า 3 พันล้านบาท พบเกิดหนี้เสียเฉลี่ย 15% จากการทำโครงการ 8 โครงการ วงเงินกู้รวม 2 หมื่นล้านบาท เอสเอ็มอีแบงก์ที่เดียว ทำ 6 โครงการ
  • ตลาดหลักทรัพย์เตรียมสรุปแผนเปลี่ยนการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์เป็น 2 วันทำการ จากเดิม 3 วันทำการ คาดเริ่มใช้ได้ใน 2-3 ปี เชื่อระบบชำระราคาใหม่ที่จะเริ่มใช้กลางปีนี้ ช่วยทุกฝ่ายทำธุรกรรมง่ายขึ้น พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย)เป็นเซทเทิลเมนท์แบงก์ หวังดึงต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น
  • เจพี มอร์แกน เผยแนวโน้มเศรษกิจไทยอาจไม่โตตามเป้าถึง 4% หากรัฐบาลล่าช้าในการใช้จ่ายเงินลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ตามที่แถลงไว้ อาจฉุด GDP ลดต่ำเหลือเพียง 3.2%
  • พลังงานยอมถอยเปลี่ยนเงื่อนไขรูปแบบสัมปทานปิโตรเลียม รอบ 21 ให้แปลงอ่าวไทย 3 แปลงใช้ระบบพีเอสซีได้ อ้างแก้ไขตามข้อเสนอ สปช. แต่ขอ 4 ปี ยกร่าง กม.ระบุเอกชนไม่ตื่นเต้น คาดจะประสบผลสำเร็จ 10 แปลง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ADVANC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 310 บาท คงคาดกำไรปกติปีนี้ +17% YoY เป็น 42,789 ล้านบาท กำไรปกติใน 4Q57 ทำ New high เท่ากับที่คาด รายได้ Non-voice ลงแรงกว่าคาด -15% YoY (คาด -13% YoY) แต่ Non-voice มากกว่าคาด +41% YoY (คาดที่ 40% YoY) จากความพยายามย้ายลูกค้ามายังคลื่นใหม่พร้อมยอมขายมือถือราคาทุน แต่ใน 4Q57 ได้อานิสงค์จาก iPhone6 ทำให้อัตรากำไรเป็นบวก 1.8% จาก -2.0% ใน 3Q57 พร้อมเงินปันผล 2H57 ที่ 5.96 บาท/หุ้น (XD 26 มี.ค.) คิดเป็นผลตอบแทน 2.4% ขณะที่ทั้งปี 2558 คาดที่ 14.10 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 5.7%
  • INTUCH(โกลเบล็ก)ราคา Consensus 105.60 บาท คาดกำไรปี 57 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากส่วนแบ่งรายได้และกำไร ADVANC-THCOM ขยายตัวขึ้นโดดเด่น ระยะกลาง-ยาวยังโดดเด่นทั้งจาก ADVANC (พัฒนาการผู้ใช้ 3G 2.1GHz.มากสุดในอุตสาหกรรม,ได้ประโยชน์จากการประมูล 4G)และ THCOM(กำไรแกร่ง) และโดดเด่นด้านเงินปันผลคาด div yield ปี 57 ที่ 6-6.5%
  • CK(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 33 บาท ได้ซื้อหุ้น BMCL เพิ่ม 10% หุ้นละ 1.79 บาท ต้นทุนรวม 3.7 พันล้านบาท และขายหุ้นไซยะบุรี 30% ให้ CKP ที่มูลค่า 4.3 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนการควบรวมกิจการระหว่าง BECL กับ BMCL แต่ต้องรอผ่านมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ CK ที่ 2 เม.ย.58 เป็นบวกกับกลุ่ม CK เพราะมีพัฒนการที่ดีในอนาคตของพอร์ตการลงทุน เพราะการควบรวมจะนำมาซึ่งการผสานจุดแข็งของสองบริษัทคือ BECL เป็นบริษัทที่มีเงินสดมาก จ่ายปันผลได้สูง ขณะที่ BMCL มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ธุรกิจและผลประกอบการกำลัง Turnaround อีกทั้งจะเปิดโอกาสการลงทุนใหม่ในอนาคต
  • CENTEL(เออีซี)"ซื้อ"เป้า 40 บาท ช่วง 4Q57 คาดกำไรปกติโต 32.5%%YoY ซึ่งหลัก ๆ มาจากธุรกิจโรงแรมที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมีนัยฯ ส่วนทั้งปี 57 แม้คาดกำไรสุทธิหดตัว 9.5%YoY แต่จะกลับมาโตเด่น 23.6%YoY ในปี 58 จากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม และการเติบโตต่อในธุรกิจอาหาร + กำไรที่คาดโตเด่นในปี 58

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ