การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,606.69 จุด ส่วน จุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,592.59 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 352 หลักทรัพย์ ลดลง 513 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 228 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผุ้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ มองช่วงสั้นตลาดฯเริ่มเข้าสู่โหมดของการพักฐาน เนื่องจากปัจจัยกระตุ้นหมดลง
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงยังมีอยู่มาก ทั้งตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯออกมาดีมาก ทำให้เริ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นมาเป็นเดือน ก.ค.58 จากเดิมที่มองไปที่เดือน ก.ย.58 ดังนั้น ผลตอบแทนพันธบัตร(Bond yield)ของสหรัฐฯจึงกระโดดสูงขึ้น ทำให้ความน่าสนใจหุ้นไทยลดลงไป
นอกจากนั้น วันพรุ่งนี้ รมว.คลังยูโรโซนจะหารือเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ แต่เชื่อว่าคงยังไม่มีบทสรุปที่เป็นรูปธรรม และทำให้เรื่องยังน่าจะยืดเยื้อต่อไป ตราบใดที่กรีซยังไม่ปฏิบัติตามแผนของยูโรโซน และที่น่าเป็นห่วงคือกรีซอาจถูกมูดี้ส์ฯปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงไปสู่ระดับต่ำสุดได้
ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาเป็นแค่การรีบาวด์ในช่วงสั้น เพราะระดับสต็อกยังสูง ดังนั้น หากดัชนีฯยืนเหนือระดับ 1,600 จุดให้ขายลดน้ำหนักการลงทุนบ้าง และให้รอซื้อแถวบริเวณแนวรับ 1,564-1,560 จุด
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(11 ก.พ.)นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสอ่อนตัวลงอีก หรืออาจแกว่งไซต์เวย์ เพราะนักลงทุนคงยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะเข้าลงทุน เนื่องจากต่างรอผลการประชุมของรมว.คลังของยูโรโซ พร้อมให้แนวรับ 1,578 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,000.58 ล้านบาท ปิดที่ 13.90 บาท ลดลง 0.30 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,509.55 ล้านบาท ปิดที่ 244.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 1,391.01 ล้านบาท ปิดที่ 2.78 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,354.62 ล้านบาท ปิดที่ 361.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
MTLS มูลค่าการซื้อขาย 1,142.93 ล้านบาท ปิดที่ 18.30 บาท ลดลง 1.20 บาท