โดยปีนี้คาดว่ายอดขายไส้กรอกตลาดรวมจะเพิ่มขึ้น 7-8% จากปีก่อนที่มียอดขายรวม 35,000 ล้านบาท ปริมาณ 3 แสนตัน หรือโต 5%จากปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นกลุ่มไส้กรอก 49% และกลุ่มสไลด์ (โบโลน่า,แฮม,เบคอน) สัดส่วน 45% และอื่นๆ 6%
นายวิทวัส กล่าวว่า ในปีนี้ซีพีเอฟหันมาเน้นขายสินค้าโบโลน่า ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มสไลด์ของตลาดไส้กรอก และตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% ทั้งนี้ผลสำรวจพบว่า โบโลน่าเป็นสินค้าที่รับประทานง่าย เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้ดี โดยจะจัดกิจกรรมการตลาดทุกไตรมาสเพื่อกระตุ้นการบริโภค ทั้งนี้บริษัทตั้งบการตลาดไว้ปีนี้จำนวน 230 ล้านบาท
นอกจากนี้ การเติบโตยอดขายปีนี้จะมาจากการรุกตลาดในกลุ่มร้านค้า (B2B) ได้แก่ ร้านอาหาร ห้างแม็คโคร เป็นต้น ซึ่งบริษัทยังสัดส่วนช่องทางนี้น้อยอยู่ ขณะที่ช่องทางการขายตรงสู่ผู้บริโภค (B2C) มีมากกว่า 50%
ปัจจุบัน ไส้กรอกแบรนด์ซีพีเป็นส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 โดยบริษัทจับทั้ง 3 กลุ่มตลาด ได้แก่ กลุ่มพรีเมียมราคา 400 บาท/กก.จะเป็นแบรนด์บุชเชอร์ มีส่วนแบ่ง 2% ระดับกลาง ราคา 200-400 บาท/กก.ใช้แบรนด์ซีพ๊ มีส่วนแบ่ง 26% และกลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 200 บาท/กก. ใช้แบรนด์ BKP สัดส่วนตลาด 3% รวมทั้งหมดสินค้าของซีพีเอฟมีส่วนแบ่งตลาด 31%
"เราตั้งเป้าโตทุก secment ทั้งสัดส่วนการตลาด ทุกกลุ่มทั่งแบรนด์พรีเมี่ยม ซีพี และ BKP" นายวิทวัส กล่าว
อนึ่ง สินค้าแบรนด์ซีพี มีสัดส่วนรายได้จากอาหารสด 58% และ อาคารปรุงสำเร็จ ได้แก่ ไส้กรอก อาหารทานเล่น(snack) เบอร์เกอร์ เป็นต้น มีสัดส่วนรายได้ 42% นอกจากนี้สินค้าแบรนด์ซีพียังส่งจำหน่ายไปต่างประเทศ ในสหรัฐ ยุโรป เอเชีย อาทิ มาเลเซียน เวียดนาม สิงคโปร์ พม่า และ ฮ่องกง