ทั้งนี้ การประชุมในวันนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 4 (ระยอง-แก่งคอย) ช่วงผ่านที่ดินของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปราจีนบุรี ปลัดจังหวัดปราจีนบุรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปราจีนบุรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรฯ ผู้อำนวยการโครงการท่อส่งก๊าซธรรมขาติเส้นที่ 4 (ระยอง-แก่งคอย) ปตท. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และพลังงานจังหวัดปราจีนบุรี
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารความยั่งยืนและวิศวกรรมโครงการ PTT กล่าวว่า การปรับแนวท่อส่งก๊าซฯ ในครั้งนี้ สามารถผสานเจตนารมณ์ในการใช้ประโยชน์เพื่อสังคมในพื้นที่ของมูลนิธิฯ และการสร้างโครงข่ายพลังงานเพื่อประเทศของ ปตท. ได้เป็นอย่างดี
โดย ปตท. พร้อมเข้าสำรวจพื้นที่ของมูลนิธิฯ เพื่อประเมินสภาพพื้นที่ตามขั้นตอนมาตรฐานการดำเนินงาน และวางแผนการทำงานแบบขุดเปิดได้ทันที ซึ่งจะช่วยให้การก่อสร้างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบที่อาจเกิดในระหว่างการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี ซึ่งการวางท่อแบบขุดเปิดหน้าดินจะไม่มีการใช้แร่ดินเบนโทไนต์แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องมีการนำมติดังกล่าวไปดำเนินเรื่องกับคณะกรรมการกำกับกิจกรรมพลังงาน (กกพ.) เพื่ออนุมัติการปรับแนวเขตระบบท่อดังกล่าวต่อไป สำหรับการพิจารณา ค่าชดเชยความเสียหายในพื้นที่ของมูลนิธินั้น ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและชดเชยความเสียหาย ทั้งในและนอกเขตระบบต่อไป
“ปตท. ขอขอบคุณ มูลนิธิฯ อภัยภูเบศร ในการสนับสนุนความร่วมมืมอดังกล่าว และให้โอกาส ปตท. ได้เข้าสำรวจพื้นที่ โดย ปตท. จะดำเนินการก่อสร้างให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด เพื่อให้พื้นที่ของมูลนิธิฯ สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมสมดังความตั้งใจ และเป็นแหล่งเรียนรู้สมุนไพรที่สำคัญของชาติและภูมิภาค ปตท. พร้อมสนับสนุนการพัฒนาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ของอภัยภูเบศรซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่คนไทยภาคภูมิใจด้วยความจริงใจ" นายอรรถพล กล่าว