"ตลาดวัสุดก่อสร้างปกติจะเติบโต 5-10% ปีที่แล้วแทบไม่โต ปีนี้น่าจะทำได้ดีกว่าปีที่แล้วที่งานราชการไม่ได้ออกมาเกือบปี พอออกมาก็จะสร้างความมั่นใจให้กับเอกชน งานภาครัฐเป็นตัว drive หลัก เมื่อใดที่เศรษฐกิจแย่ภาครัฐก็จะเป็นตัว lead ภาคอื่นๆตามมา งานเล็กๆก็จะออกมาตามมาด้วย ปีนี้ก็น่าจะกลับมาโตในระดับปกติ 5-10%"นายนิธิ กล่าว
นายนิธิ กล่าวอีกว่า ขณะนี้งานภาครัฐเริ่มทยอยออกมาบ้างแล้ว แม้จะเป็นงานขนาดเล็ก แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดี และคาดว่าจะมีงานโครงการขนาดใหญ่ออกมามากขึ้นในช่วงกลางปีถึงปลายปีนี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้ตลาดเติบโตขึ้นได้ทั้งในส่วนของกลุ่มวัสดุก่อสร้างและปูนซีเมนต์ โดยในส่วนของตลาดปูนซีเมนต์คาดว่าจะมีการแข่งขันพอสมควร หลังจากที่การขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ของบมจ.ทีพีไอ โพลีน(TPIPL) ไลน์ที่ 4 แล้วเสร็จในช่วงกลางปี ก็จะทำให้ทิศทางของราคาปูนซีเมนต์เป็นไปตามกลไกของตลาดที่มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ ยังต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดด้วย โดยเบื้องต้นทางเครือซิเมนต์ไทยคาดว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในปีนี้จะเติบโตได้ราว 6%
อย่างไรก็ตามเพื่อรองรับการแข่งขันของตลาดวัสดุก่อสร้างที่มีเพิ่มขึ้นทุกปีนั้น ทางเครือซิเมนต์ไทยได้เปิดตัว SCG Contact Center ซึ่งเป็นศูนย์ให้บริการข้อมูลและคำปรึกษาด้านการสร้างบ้านอย่างครบวงจร โดยขยายช่องทางการบริการที่หลากหลายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน
"การแข่งขันสูงขึ้นตลอด ทั้งคู่แข่งและความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น ถ้าเราตามไม่ทันลูกค้าก็จะไปหาคู่แข่งแน่นอน เราก็มีแผนที่จะขยายในส่วนของ contact center ให้มากขึ้น เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้า"นายนิธิ กล่าว
สำหรับแผนการขยายร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในรูปแบบ"เอสซีจี โฮมโซลูชั่น" ซึ่งเป็นศูนย์บริการและจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างบ้านครบวงจรนั้น บริษัทมีแผนจะขยายเพิ่มเป็น 55 แห่งในปีนี้ จากสิ้นปีที่แล้วมี 33 แห่ง และวางเป้าหมายจะเพิ่มเป็น 85 แห่งใน 3 ปี