E-W4 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 8.26 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.04 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.06 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.03 บาท
ขณะที่หุ้น E ปิดที่ 1.08 บาท ลดลง 0.01 บาท(-0.92%)มูลค่าซื้อขาย 12.45 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.08 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.09 บาท และราคาลงต่ำสุด 1.06 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล(E)ใช้ชื่อย่อว่า E-W4 คาดว่าจะมี All-in Premium ที่ +47.5% ด้วยสถานะที่ Out-of The Money และอัตราการใช้สิทธิที่ค่อนข้างต่ำ (10:1) จะทำให้มูลค่าที่เหมาะสมของ E-W4 ต่ำมากและจะทำให้ความผันผวนของราคาสูง (ช่วงการเปลี่ยนแปลงของราคากว้าง) ทำให้มองว่า E-W4 เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงมากเท่านั้นเนื่องจากอายุที่สั้นเพียง 1 ปี
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิด E ที่ 1.09 บาท (13 ก.พ.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ E-W4 ที่ 0.01 บาท พร้อมให้กรอบมูลค่า E-W4 ไว้ที่ 0.007-0.017 บาท เมื่อราคาหุ้น E อยู่ในกรอบ 0.97-1.27 บาท โดยมี Volatility ที่ 52% per year
บมจ.เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล(E) ลงทุนในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคเน้นไปที่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับสิทธิในการเปิดแฟรนไชส์ของโดนิโม พิซซ่า ในประเทศไทย สิทธิในการเปิดแฟรนไชส์ของคอฟฟี่ บีนส์ แอนด์ ทีลีฟในประเทศไทย สิทธิในการเปิดแฟรนไชส์ของเคียวโชน ในประเทศไทย พม่า ลาว กัมพูชา และธุรกิจร้านอาหารและบาร์ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
รวมถึงธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด โดยลงทุนผ่านเรด แพล็นเนท โฮเต็ลส์ ซึ่งเป็นทั้งผู้ได้รับสิทธิในการเปิดแฟรนไชส์และผู้ถือหุ้นของทูนส์ โฮเต็ลส์ในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย นอกจากนี้บริษัทยังลงทุนในธุรกิจสื่อและพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ในภูมิภาคอีกด้วย
E-W4 จำนวนที่ออก 2,205.40 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 6 : 1 : 8 ที่ราคา 1.1 บาท (6 หุ้นเดิมได้ 1 หุ้นเพิ่มทุนที่ราคา 1.1 บาทและได้ 8 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ขึ้น XRW 22 ธ.ค. 14) อัตราใช้สิทธิ 10 : 1 @ 1.5 บาท, อายุ 1 ปี กำหนดใช้สิทธิได้ครั้งเดียวคือวันที่ 2 ก.พ. 2016 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ